คุณเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์กล่าวว่า แคนนอนตระหนักดีว่าผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มนิยามความคุ้มค่าด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน ไม่จำกัดแค่เรื่องราคาหรือค่าใช้จ่ายเท่านั้น ในแคมเปญนี้แคนนอนจึงสะท้อนความคุ้มค่าผ่านพรินเตอร์ซีรีส์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่
1. PIXMA PRO Series พรินเตอร์ที่มีคุณภาพการพิมพ์สูง รองรับการพิมพ์สูงสุดถึงขนาด A2+ ให้รายละเอียดที่คมชัด สีสันสมจริง ตอบโจทย์ความคุ้มค่าสำหรับช่างภาพมืออาชีพ
2. PIXMA TS Series พรินเตอร์ที่เน้นความคุ้มค่าของการใช้งานที่หลากหลาย มาพร้อมระบบ Wi-Fi สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว ด้วยพรินเตอร์เพียงเครื่องเดียว
3. PIXMA E Series เหมาะสำหรับนักเรียน-นักศึกษาใช้ทำรายงานหรือการบ้าน คุ้มค่าด้วยราคาหมึกถูก พร้อมสนับสนุนการเรียนรู้ได้ทุกเวลา
4. PIXMA S Series พรินเตอร์ขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานง่ายและสะดวก เป็นความคุ้มค่าสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการมีพรินเตอร์สักเครื่องติดบ้านไว้
5. PIXMA HOT Series พรินเตอร์ที่ให้ความคุ้มค่าในเรื่องความประหยัด เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ใครๆ ก็ต้องมี และยังขายดีอันดับหนึ่งอีกด้วย
6. PIXMA G Series พรินเตอร์แท็งก์แท้จากโรงงาน รองรับการพิมพ์ในปริมาณมาก แต่ต้นทุนต่อแผ่นถูก คุ้มค่าและเหมาะกับ Start Up ที่การเริ่มสร้างธุรกิจต้องคำนึงถึงการลดต้นทุน สร้างรายได้ เพื่อผลกำไรที่มากขึ้น
7. imageCLASS Laser เลเซอร์พรินเตอร์ที่ให้ความคุ้มครบ มีฟังก์ชันการใช้ที่หลากหลาย ระบบช่วยประหยัดพลังงาน ระบบการบริหารจัดการผู้ใช้ ตอบโจทย์ธุรกิจ SME ที่การลงทุนหนึ่งครั้งต้องให้ความคุ้มค่าในระยะยาว
"ไม่ว่าผู้บริโภคในตลาดจะมีพฤติกรรมการใช้งานพรินเตอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด แคนนอนก็พร้อมที่จะเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มอบทุกความคุ้มค่าตามความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคอยู่เสมอ และไม่ว่าจะใช้งานพรินเตอร์ซีรีส์ใดก็ตาม หัวใจสำคัญคือการใช้ 'หมึกแท้' ของแคนนอน ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของพรินเตอร์และผลลัพธ์การพรินต์มีประสิทธิภาพเต็มที่ ทั้งยังทำให้ตัวเครื่องไม่หลุดประกันอีกด้วย" คุณเนตรนรินทร์กล่าวทิ้งท้าย