ภูกระดึง เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งนักเดินทางหลายคนอาจจะเคยไปมาแล้วสักครั้งในชีวิต และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เคยมาเยือนที่นี่ แต่ถ้าได้รู้ว่า ""ภูกระดึง"" มีมากกว่าแค่การไปสัมผัสอากาศหนาว ถ่ายรูปกับวิวพระอาทิตย์ตก หลายคนอาจจะเปลี่ยนความคิดและเตรียมเก็บกระเป๋าไปภูกระดึงหน้าหนาวนี้อีกแน่นอน และเมื่อแพลน กรุงเทพ – ภูกระดึงเกิดขึ้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ก่อนเดินทาง คือ การหาตัวช่วยในการเดินทางอย่าง App NOSTRA Map ที่สามารถหาดูตำแหน่งจุดหมายปลายทาง ที่มีความละเอียดสูง ขับรถไปเองไม่มีหลงแน่นอน สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งทางระบบ IOS และ ANDROID ที่ https://map.nostramap.com/mobile
นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารใกล้เคียงแนะนำ หรือแม้กระทั่งปั้มน้ำมัน จุดพักรถ ก็มีมาให้ โดยกดเลือก Filter ที่ Special content แล้วดูบนแผนที่เดินทางได้เลย
เมื่อเราเดินทางถึงภูกระดึง สิ่งแรกที่ต้องจัดการคือซื้อตั๋วเพื่อเข้าอุทยานกันก่อน ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง พร้อมกับจ้างลูกหาบในการแบกกระเป๋าขึ้นภู โดยคิดราคาตามน้ำหนักกระเป๋า แนะนำว่าตอนเดินควรมีสัมภาระให้น้อยที่สุด เพราะทางเดินจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ต้องเก็บแรงไว้เดินเที่ยวบนภูอีก
การเดินทางขึ้นภูกระดึงก็เริ่มขึ้น สองข้างทางเป็นป่าไม้แห้ง สลับป่าไผ่ ป่าดิบเขา ความชันจะไล่ระดับขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุด Check Point แต่ละขั้น คือ ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ โดยทุกจุดจะมีบริการอาหาร น้ำ ของทานเล่น ไม่มีอดแน่นอน ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปไม่เยอะ ของขึ้นชื่อที่นี่ก็คงเป็นแตงโมหวานเย็นชื่นใจ ข้าวจี่ และไข่ปิ้งร้อนๆ ที่เคล้ากับบรรยากาศหน้าหนาวได้ดีอย่างทีเดียว
เมื่อเราเดินมาระยะประมาณ 5 กิโลกว่าๆ ก็จะถึงหลังแป ซึ่งเป็นที่ราบแรกบนภูกระดึง มีป้ายขนาดใหญ่รอต้อนรับเราเขียนไว้ว่า ""ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง ณ ความสูง 1288 เมตร"" จากจุดนี้ไปเราก็จะเดินเท้าไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ติดต่อเช่าเต้นท์ เครื่องนอน ได้ที่นี่เลย ส่วนใครที่กังวลเกี่ยวกับอาหารการกินบอกเลยว่าหายห่วง เพราะข้างบนนั้นมีทั้งอาหารตามสั่ง ของกินเล่น รวมไปถึงสุกี้ หมูกระทะ กินแก้หนาว โชคดีอาจจะมีกวางตัวใหญ่โผล่มาเดินทักทายกันแบบใกล้ชิดอีกด้วย
แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของทริปนี้ อยู่ระหว่างทางเดินไปตามหน้าผาต่างๆ ผ่านป่าสน ทุ่งหญ้าสะวันนา หรือ เส้นทางน้ำตกไหลผ่าน สิ่งที่เราได้พบเห็นคือ ธรรมชาติที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงาม เหมือนภาพวาดที่ถูกแต้มสีสดบนพื้นหญ้าแห้งหรือพื้นเขียวชะอุ่ม ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ป่าหายาก กล้วยไม้ป่า ไลเคน พืชตระกูลมอส เฟิน สน และใบไม้สีแดงสดอย่างเมเปิ้ลที่ขึ้นเฉพาะที่สูง ต่างดึงดูดให้เรามอง คล้ายกำลังอวดโฉมท่ามกลางผืนป่าบนภูกระดึง ที่อาจจะหาไม่ได้จากผืนป่าอื่นๆในประเทศไทย
นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้วยังมีสถานที่เที่ยวยอดฮิตอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นผาหล่มสัก (จุดชมพระอาทิตย์ตก) , ผาหมากดูก, ผานกแอ่น (จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น) , ผาเหยียบเมฆ, ผานาน้อย, น้ำตกวังกวาง, น้ำตกเพ็ญพบ, น้ำตกถ้ำใหม่ เป็นต้น ใครที่สนใจมาท่องเที่ยว แนะนำว่าให้มาช่วงหน้าหนาวนี้กันเลย ซึ่งภูกระดึงจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี และปิดฤดูกาลท่องเที่ยวช่วง 1 มิ.ย – 30 ก.ย. เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติในช่วงฤดูฝน
ออกเดินทางทุกครั้ง นึกถึง Application NOSTRA Map แผนที่ไทยที่ละเอียดและแม่นยำที่สุด เที่ยวครบจบในแอปเดียว ดาวน์โหลดได้ที่ https://map.nostramap.com/mobile