กลุ่มทรู ปักหมุดโครงการ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ย้ำจุดเด่น Open Innovation และระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร (Complete Ecosystem)

พฤหัส ๒๓ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๔:๓๔
ติดปีกสตาร์ทอัพไทยสู่สากล ร่วมขับเคลื่อนประเทศ ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของโลก

กลุ่มทรู รุกคืบโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้าเสริมศักยภาพสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตแข็งแกร่งและแข่งขันได้บนเวทีโลก ประกาศความพร้อมสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร (Complete Ecosystem) มั่นใจเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลครบวงจรเทียบเท่าระดับสากล ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ตามนโยบายของรัฐบาล

นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า กลุ่มทรู มุ่งมั่นร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนประเทศให้มีความแข็งแกร่ง มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ เดินหน้าโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร ด้วยแนวคิด Open Innovation จากการรวมตัวกันของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมทั้งศูนย์ R&D ของมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐ ทำให้เกิดชุมชนเพื่อผู้ประกอบการเริ่มต้น เป็นแหล่งหลอมรวมองค์ความรู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนการสร้างแรงบันดาลใจ ผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริง และต่อยอดธุรกิจของเหล่าสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 101 ในย่านนวัตกรรมปุณณวิถี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องโครงการย่านนวัตกรรม 15 ย่านของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) มีขนาดพื้นที่ประมาณ 77,000 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว โดย จัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซนได้แก่ Co-working Space สำหรับการทำงาน เรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน, Enterprise Space สำนักงานบริษัทข้ามชาติ และเหล่าสตาร์อัพ, Innovation Space ศูนย์นวัตกรรม และเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นนำ, และ Events and Business Services Space เติมเต็มไลฟสไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งห้องประชุมและสัมมนา ร้านอาหาร และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ รวมทั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นการออกแบบพื้นที่เพื่อให้เกิดระบบนิเวศสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังมีระบบสื่อสารความเร็วสูงทั้งแบบมีสายและไร้สาย เชื่อมโยงทั่วทั้งโครงการ รวมทั้งโซลูชั่นไอโอที (IoT Solutions) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับการทำธุรกิจ อาทิ คลาวด์ คอมพิวติ้ง และ ระบบ e-Payment เป็นต้น

ระบบนิเวศสมบูรณ์แบบ (Ecosystem) ของทรู ดิจิทัล พาร์ค สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของสตาร์ทอัพครบครันในที่เดียว ทั้งสร้างแรงบันดาลใจ ต่อยอดไอเดียนวัตกรรม และติดสปีดให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย

บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จากทั่วโลก (Global Tech Giants) ตั้งสำนักงานหรือสาขาในประเทศไทยสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล อาทิ IoT และ Big Data Analytics, Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning, e-Commerce, Creative Content และ Gaming รวมทั้งธุรกิจเทคในด้านการเงิน (FinTech), การศึกษา (EduTech), การท่องเที่ยว (TravelTech), การเกษตร (AgriTech) และ การสาธารณสุข (HealthTech) เป็นต้นโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น (Incubators and Accelerators) ด้วยกิจกรรมและเวิร์คช้อปต่างๆ ที่จะเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์รอบด้านในการทำธุรกิจ และสร้างเครือข่ายชุมชนสตาร์ทอัพในระดับภูมิภาค แหล่งรวมนักลงทุนจากทั่วโลก (Investors and VCs) ที่มองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ของภาครัฐ ที่จะให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกในการให้บริการด้านธุรกิจแก่เหล่าสตาร์ทอัพ รวมทั้งสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัย รองรับการทำธุรกิจได้อย่างครบวงจร

"ปัจจุบัน โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จราวปลายปี 2561 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์บริการดิจิทัลแบบเบ็ดเสร็จ (Digital One Stop Service) รวมทั้งบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และกลุ่มสตาร์ทอัพให้ความสนใจเป็นอย่างมาก มั่นใจว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นจุดหมายปลายทางและเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของไทย ที่จะรวบรวมคนเก่งผู้มีความรู้ความสามารถ (Talent)จากทั้งในและต่างประเทศเข้ามา ทำให้เกิดการหลอมรวมองค์ความรู้และประสบการณ์ เพิ่มศักยภาพให้สตาร์ทอัพไทยมีความเข้มแข็ง สร้างชื่อเสียงและคุณค่าให้แก่สังคมในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นและดึงเงินลงทุน (Funding) จากทั่วโลกเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย สอดคล้องตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในยุคไทยแลนด์ 4.0" นายฐนสรณ์ กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4