'เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2018’ เผย ยิ่งเทคโนฯ ก้าวไกล องค์กรยิ่งชาญฉลาด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของภาวะผู้นำแบบใหม่

พฤหัส ๐๕ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๖:๒๓
องค์กรใช้เอไอสร้างการเติบโตและทำประโยชน์ให้สังคมได้ ผ่านการประสานความร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรใหม่ๆ

รายงาน เทคโนโลยี วิชั่น 2018 (Accenture Technology Vision 2018) ของเอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) ซึ่งจับเทรนด์เทคโนโลยีในแต่ละปีเพื่อประเมินปัจจัยที่อาจส่งผลต่อธุรกิจอย่างพลิกผันในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า เผยถึงพัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ ว่าเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดองค์กรอัจฉริยะเร็วขึ้น และช่วยให้องค์กรนำเอไอมาใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนได้ อย่างไรก็ตาม การจะใช้โอกาสเหล่านี้ในการสร้างการเติบโต ขณะเดียวกันก็ทำประโยชน์ให้สังคมได้ด้วยนั้น ผู้นำองค์กรยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญกับความไว้วางใจและความรับผิดชอบต่อลูกค้าและพันธมิตรมากขึ้น

รายงานเทคโนโลยี วิชั่น ในปีนี้เรื่อง "Intelligent Enterprise Unleashed: Redefine Your Company Based on the Company You Keep" ซึ่งกล่าวถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบอนาลิติกส์ขั้นสูง และคลาวด์ ว่าไม่เพียงมีส่วนช่วยในการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าและบริการขององค์กร แต่ยังเข้ามาเปลี่ยนวิถีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คนด้วย ในทางกลับกัน ก็เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในแนวทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและพันธมิตรต่าง ๆ ด้วย

เทรนด์ต่าง ๆ ในเทคโนโลยี วิชั่น ส่วนหนึ่งได้มาจากการสำรวจความเห็นของผู้บริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ 6,300 คนทั่วโลก พบว่าผู้บริหารกว่า 4 ใน 5 (ร้อยละ 84) เห็นพ้องว่าเทคโนโลยีคือปัจจัยช่วยกรุยทางให้องค์กรเข้าถึงและแทรกซึมไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนอย่างแนบเนียน

ตัวอย่างเช่น อะเมซอน ที่ไม่เพียงมีฐานธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่มหาศาล แต่ยังมีอุปกรณ์ Echo และเทคโนโลยีเอไอ Alexa เข้ามาช่วย สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของผู้คน จนถึงระดับที่ผู้พัฒนาสามารถสร้างล็อคเกอร์เฉพาะสำหรับอะเมซอนเอาไว้ที่อพาร์ตเมนต์ และให้บริษัทติดต่อที่บ้านได้ผ่านระบบสมาร์ทล็อก กิจการขนส่งต่าง ๆ สามารถนำสินค้ามาส่งไว้ได้ในเวลาที่ไม่มีคนอยู่

นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว "ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้เข้าไปอยู่ในทุกภาคส่วนของชีวิตเราและกำหนดทิศทางของสังคมให้เปลี่ยนไป สมัยก่อนเมืองต่าง ๆ ก่อกำเนิดขึ้นและขยายตัวจากท่าเรือและรางรถไฟ วิถีชีวิตคนได้เปลี่ยนไปเมื่อมีไฟฟ้า โลกทุกวันนี้ก็เหมือนกันที่มีการปรับตัวไปตามนวัตกรรมด้านดิจิทัล องค์กรที่ปรับตัวได้ ก็ต่อยอดการให้บริการได้เช่นกัน แต่ก็ต้องมีการประสานความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นความน่าเชื่อถือและการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากระหว่างกัน"

รายงาน เทคโนโลยี วิชั่น ยังชี้ให้เห็นว่ายุคแห่งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีล่าสุดนั้น ค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะ เพราะเป็นครั้งแรกที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากทั้งสองทาง คนที่ไม่เพียงแต่ใช้สินค้าและบริการขององค์กรเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลกลับมายังองค์กรด้วย การที่ "ข้อมูลผสานกันอย่างครบวงจร" และมีความไว้วางใจต่อกันระหว่างผู้บริโภคกับองค์กรนั้น ต้องอาศัยความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกว่าเดิม หมายความว่ามีความร่วมมือกันจริง ๆ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสินค้าของบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะต่างก็มีเป้าหมายและค่านิยมร่วมกัน ซึ่งในความสัมพันธ์แบบสองทางเช่นนี้พื้นฐานสำคัญคือความรับผิดชอบที่องค์กรต้องมีต่อทั้งลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ และสังคมในวงกว้างซึ่งต้องการผู้นำในแนวใหม่และการมีพันธสัญญาในเรื่องนี้ตั้งแต่ระดับบนลงมา

องค์กรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ความคาดหวังทางสังคมเหล่านี้ สามารถแปรให้เป็นจุดแข็งขององค์กรได้โดยใช้ปฏิสัมพันธ์ที่มากขึ้น การสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า พนักงาน รัฐบาล และสาธารณชน ที่ก้าวไปไกลกว่าเรื่องของผู้บริโภคหรือการค้า

ยกตัวอย่างเช่น เทสล่า ที่มีความร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดทำแนวทางที่จำเป็นต่อรถขับขี่อัตโนมัติให้เร็วขึ้น ส่วนซีเมนส์ ก็มีระบบปฏิบัติการ MindSphere สำหรับอุปกรณ์ไอโอทีต่าง ๆ ช่วยให้สามารถนำไปใช้กับสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์การผลิต อุปกรณ์สำหรับโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือโรงไฟฟ้า เหล่านี้ได้ช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ใหม่ ๆ และสามารถทำให้องค์กรของตนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงานของพันธมิตรธุรกิจในหลาย ๆ ส่วนด้วย

เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2018: กะเทาะแนวโน้ม 5 ด้านขององค์กรอัจฉริยะ

รายงานเทคโนโลยี วิชั่น หยิบยกเทรนด์เทคโนโลยีมาแรง 5 ด้าน ที่องค์กรควรให้ความสำคัญ เพื่อสร้างพันธมิตรและประสานความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อความสำเร็จในโลกแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน ได้แก่

- สังคมแห่งเอไอ (Citizen AI): เสริมบทบทบาทของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ที่มีต่อธุรกิจและสังคมให้มากขึ้น ยิ่งเอไอมีศักยภาพมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งส่งผลต่อชีวิตของผู้คนมากขึ้นเท่านั้น องค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเอไอให้มีประสิทธิภาพที่สุด ต้องตระหนักถึงผลกระทบของเอไอด้วย โดยควร "ยกระดับ" เอไอให้มีฐานะเป็นเสมือนตัวแทนองค์กรที่ปฏิบัติการอย่างมีความรับผิดชอบต่อภาคส่วนต่าง ๆ

- โลกเสมือนผสานโลกจริง (Extended Reality): จุดจบของพรมแดนระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน เทคโนโลยีวีอาร์ (Virtual Reality) และเออาร์ (Augmented Reality) ได้เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและทำงานของผู้คน โดยตัดทอนปัจจัยด้านระยะห่างระหว่างผู้คน ข้อมูล และประสบการณ์ต่าง ๆ ออกไป

- คุณภาพของข้อมูล (Data Veracity): ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญ การที่องค์กรทำงานโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลมากขึ้น ทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงลักษณะใหม่คือ การที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ข้อมูลถูกดัดแปลง และเติมแต่งอคติ นำไปสู่ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่ผิดเพี้ยน และการตัดสินใจที่เบี่ยงเบนไปจากที่น่าจะเป็น องค์กรจึงจำเป็นต้องคงเป้าหมายสองอย่างควบคู่กันไป คือทำให้ข้อมูลมีคุณภาพที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เกิดการเบี่ยงเบนน้อยที่สุดด้วย

- ธุรกิจพัฒนาได้ต่อเนื่อง (Frictionless Business): ศักยภาพในการขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและยืดหยุ่น องค์กรธุรกิจต่างต้องอาศัยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการเติบโต ซึ่งระบบเดิมขององค์กรอาจไม่สนับสนุนการขยายความร่วมมือในทางที่ต้องการได้เสมอไป การผลักดันให้เกิดองค์กรอัจฉริยะ จึงต้องเริ่มจากการดีไซน์องค์กรแบบใหม่

- ระบบคิดที่เชื่อมต่อกัน (Internet of Thinking): ระบบอัจฉริยะเชื่อมโยงกัน กลายเป็นระบบนิเวศที่ชาญฉลาด องค์กรธุรกิจต่าง ๆ คาดหวังประโยชน์ที่จะได้รับจากสิ่งแวดล้อมระบบอัจฉริยะต่าง ๆ เช่น โรโบติกส์ เอไอ และประสบการณ์เสมือนในโลกจริง อย่างไรก็ตาม การสร้างสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่เพียงอาศัยบุคลากรและทักษะความเชี่ยวชาญใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังต้องทำให้โครงสร้างทางเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความทันสมัยขึ้นด้วย

"การประสานความร่วมมือในลักษณะใหม่กับลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรธุรกิจ จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อใจกันและช่วยให้ธุรกิจหล่อหลอมบทบาทเข้าไปอยู่ในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม กลายเป็นฟันเฟืองที่จำเป็นและเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต" นายนนทวัฒน์กล่าว

เอคเซนเชอร์ได้วิเคราะห์ภาพรวมธุรกิจอย่างเป็นระบบมาตลอดระยะเวลา 18 ปี และเจาะลึกเทรนด์เทคโนโลยีที่มีแนวโน้มจะส่งผลทำให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนโฉมหน้าไปมากที่สุด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน เทคโนโลยี วิชั่น ในปีนี้ สามารถดูได้ทางเว็บไซต์ www.accenture.com/technologyvision หรือติดตามทางแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #TechVision2018

เกี่ยวกับวิธีวิจัย

รายงาน เทคโนโลยี วิชั่น หรือ วิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี จัดทำขึ้นเป็นรายปี โดย เอคเซนเชอร์ แล็ปส์ และเอคเซนเชอร์ รีเสิร์ช สำหรับรายงานประจำปี 2018 ประกอบด้วยผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชน เจ้าของกิจการ นักวิชาการ กิจการร่วมลงทุน รวมกว่า 20 แห่ง พร้อมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี และผู้นำองค์กรธุรกิจอีกร่วม 100 คน สมทบด้วยข้อมูลการสำรวจออนไลน์ทั่วโลกจากผู้บริหารที่ดูแลธุรกิจและไอทีกว่า 6,300 คนจาก 25 ประเทศใน 18 อุตสาหกรรม เอคเซนเชอร์ รีเสิร์ช จึงประมวลออกมาเป็นอินไซต์เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในปัจจุบัน

การสำรวจนี้ได้หยิบยกประเด็นปัญหา รวมทั้งลำดับความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้และการลงทุน ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับสูงและกรรมการที่ทำหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งให้กับองค์กรที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เกี่ยวกับเอคเซนเชอร์

เอคเซนเชอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ดิจิทัล การบริหารเทคโนโลยีและการปฏิบัติการชั้นนำของโลก และด้วยประสบการณ์การทำงานอย่างลึกซึ้ง ผนวกกับศักยภาพที่สมบูรณ์แบบในกว่า 40 อุตสาหกรรม ซึ่งครอบคลุมทุกสายงานของธุรกิจ พร้อมด้วยเครือข่ายการให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เอคเซนเชอร์สามารถร่วมมือกับลูกค้า เชื่อมต่อธุรกิจและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ยกระดับองค์กรของลูกค้าให้เป็นองค์กรที่มีศักยภาพและสมรรถภาพสูง สามารถสร้างคุณค่าอันยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นได้ ปัจจุบันเอคเซนเชอร์ มีพนักงานประมาณ 435,000 คนในกว่า 120 ประเทศ เอคเซนเชอร์มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้การใช้ชีวิตและการทำงานมีคุณภาพดีขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.accenture.com

Copyright (C) 2018 Accenture สงวนลิขสิทธิ์ เอคเซนเชอร์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของชื่อ โลโก้ และสโลแกน High Performance Delivered

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๑๑ เปิดโพล! สงกรานต์ คนไทยยังอยาก รวย อวย Soft Power เสื้อลายดอก-กางเกงช้าง ต้องใส่สาดน้ำ
๑๖:๓๖ ฮีทสโตรก : ภัยหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิต
๑๖:๐๐ STX เคาะราคา IPO 3.00 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 18,19 และ 22 เม.ย. นี้ ปักธงเทรด mai 26 เมษายน 67
๑๖:๓๗ ถอดบทสัมภาษณ์คุณอเล็กซานเดอร์ ฟาบิก (Alexander Fabig) และคุณปีเตอร์ โรห์เวอร์ (Peter Rohwer) ผู้เชี่ยวชาญ
๑๖:๑๖ HIS MSC จัดงานสัมมนา The SuperApp ERP for Hotel
๑๖:๒๑ ที่สุดแห่งปี! ครบรอบ 20 ปี TDEX (Thailand Dive Expo) มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำระดับเอเชีย งานเดียวที่นักดำน้ำรอคอย
๑๕:๒๗ เคทีซีเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 19.99% ต่อปี แบ่งเบาภาระสมาชิกใหม่บัตรกดเงินสด เคทีซี พราว
๑๗ เม.ย. ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง CHAO เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าจดทะเบียนใน SET
๑๗ เม.ย. แอร์เอเชีย บิน สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่ เริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว* เสริมทัพหาดใหญ่ บินเลือกได้ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ!
๑๗ เม.ย. YONG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น