การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบิ๊กดาต้า ทำให้เกิดบริการและแอพพลิเคชันที่หลากหลาย โดยเครือข่าย WANs ทำหน้าที่เสมือนท่อส่งมอบบริการและแอพพลิเคชันเหล่านี้ และจะรองรับการขยายตัวแบบทวีคูณของปริมาณข้อมูล อย่างไรก็ตาม เครือข่าย WANs แบบดั้งเดิมต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายในการให้บริการ ยกตัวอย่างเช่น กระบวนการที่กินเวลาหลายสัปดาห์ หรืออาจยาวนานนับหลายเดือน ตั้งแต่การวางคำสั่งไปจนถึงการจัดเตรียมบริการ ซึ่งส่งผลให้เครือข่าย WANs แบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านบริการที่หลากหลายในยุคของคลาวด์ได้
โซลูชันนี้ใช้นโยบายแบบ intent-driven ที่มุ่งเน้นความตั้งใจ แทนนโยบาย passive-response ที่เป็นการตอบสนองเชิงรับ ด้วยการรวบรวมข้อมูลบริการและเครือข่ายแบบเรียลไทม์ จากนั้นโซลูชั่นจะส่งค่าคอนฟิกและค่า path โดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลบริการ โซลูชั่นนี้จะเปลี่ยนเครือข่าย WAN จากเดิมที่ตอบสนองเชิงรับ ไปเป็นเครือข่ายที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้าอย่างชาญฉลาด โดย Agile Controller จะสนับสนุนการควบคุมอัจฉริยะทั่วทั้งเครือข่าย จึงรองรับการปฎิบัติงานและการพัฒนาแบนด์วิดท์สำหรับบริการคลาวด์ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ Agile Controller สามารถให้บริการออนไลน์และเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลเครือข่ายในแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบนด์วิดท์จาก 30% เป็น 80% และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายหม่า เยว่ รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ Router & Carrier Ethernet ของหัวเว่ย กล่าวว่า "บริการที่เป็นระบบคลาวด์ทั้งหมดกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตของการรับส่งข้อมูลแบบทวีคูณในอนาคต เครือข่าย WANs จึงต้องใช้สถาปัตยกรรมแบบอัลตราบรอดแบนด์และง่ายต่อการใช้งาน ดังเช่นโซลูชัน Intent-Driven IP WAN ของหัวเว่ย ที่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ ด้วยนวัตกรรมด้านบริการและการเปลี่ยนแปลงองค์กรผ่านระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว"
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180615/2164500-1
บรรยายภาพ: นายหม่า เยว่ รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ Router & Carrier Ethernet ของหัวเว่ย กล่าวถึงโซลูชัน Intent-Driven IP WAN