ผลวิจัยเอคเซนเชอร์เผยเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างผลตอบแทนให้แก่ธุรกิจโรงกลั่น ยิ่งไฮเทค ยิ่งเผยมูลค่าเพิ่ม

พฤหัส ๐๙ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๒๔
ความปลอดภัยของข้อมูลยังคงเป็นอุปสรรคต่อการนำดิจิทัลมาใช้ ด้วยภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ผลวิจัยชุดใหม่ของเอคเซนเชอร์ (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก: ACN) เผยให้เห็นว่าธุรกิจโรงกลั่นสามารถสร้างผลตอบแทนทางการเงินได้จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ แต่ก็ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่จากการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ

"ธุรกิจโรงกลั่นอัจฉริยะ" (Intelligent Refinery) เป็นงานวิจัยชิ้นที่สองที่เอคเซนเชอร์จัดทำเป็นรายปี เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน โดยได้ข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มผู้บริหาร หัวหน้าสายงาน และวิศวกรในอุตสาหกรรมโรงกลั่น 170 คนทั่วโลก ซึ่งนอกจากผลวิจัยจะระบุถึงผลประโยชน์ทางการเงินจากเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว ยังชี้ให้เห็นว่าธุรกิจโรงกลั่นยังลงทุนไม่เต็มที่พอที่จะสามารถจัดการกับปัญหาภัยคุกคามทาง

ไซเบอร์ ที่เพิ่มปริมาณขึ้นตามเทคโนโลยีดิจิทัล

ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 41 ระบุว่า บริษัทของตนมองเห็นผลตอบแทนทางการเงินที่ได้จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้แล้ว ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่มีสัดส่วนร้อยละ 30 ที่ยอมรับว่าเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 7 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ หนึ่งในห้าหรือ ร้อยละ 20 ของผู้ตอบยังกล่าวว่าเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มมูลค่าของธุรกิจได้ 50 - 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรืออาจมากกว่านั้น ส่วนผู้ตอบหนึ่งในสามหรือ ร้อยละ 33 ระบุว่า มูลค่าที่เพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 5 - 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ผลตอบแทนทางการเงินที่จับต้องได้อาจเป็นส่วนช่วยอธิบายถึงสาเหตุของการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลของกิจการมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 59) ที่สำรวจในปีนี้ ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยกิจการต่าง ๆ ได้ลงทุนด้านดิจิทัลมากขึ้นหรือมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับการลงทุนในระยะ 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ 3 ใน 4 หรือร้อยละ 75 ของผู้ตอบแบบสำรวจยังมีแนวโน้มเพิ่มการลงทุนอีกในช่วง 3 - 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 ของผู้ตอบในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ายังมีความต้องการเทคโนโลยีดิจิทัลอีกมาก

ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจโรงกลั่นเกือบครึ่งหรือร้อยละ 48 ประเมินว่าได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในองค์กรเต็มที่หรือค่อนข้างเต็มที่แล้ว (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 44 ในการสำรวจปีที่แล้ว) อย่างไรก็ดี โรงกลั่นส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนอกเหนือจากระบบที่พัฒนาแล้วเช่น อนาลิติกส์

เมื่อถามถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่ผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมากที่สุดสำหรับธุรกิจโรงกลั่น ผู้ตอบส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นระบบควบคุมกระบวนการปฏิบัติงานที่ทันสมัย และระบบวิเคราะห์อนาลิติกส์ที่ก้าวหน้า ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ผู้ตอบร้อยละ 61 และ ร้อยละ 50 ตามลำดับ ซึ่งเป็นสองเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมีการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่เทคโนโลยีอื่นๆที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น เซนเซอร์เทคโนโลยี IoT เอดจ์คอมพิวติ้ง (edge computing) เทคโนโลยีความจริงผสม (mixed reality) เทคโนโลยีโมบิลิตี้ (mobility) บล็อกเชน/สมาร์ตคอนแทร็กส์ (blockchain / smart contract) จะนำมาใช้เพียงบางส่วนหรือใช้เป็นโครงการนำร่อง จึงมีแนวโน้มว่าจะได้รับการจัดสรรเงินทุนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ใช้อยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงจำเป็นต้องบริหารยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริหารประมาณ 1 ใน 4 หรือร้อยละ 24 เปิดเผยว่า ยังไม่มีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนว่าใครจะมาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัล ซึ่งที่จริง ผู้บริหารประมาณร้อยละ 43 ยังเผยว่า การไม่มีกลยุทธ์ด้านดิจิทัลที่ชัดเจนนี้เอง ที่เป็นอุปสรรคในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เข้ามาใช้กับธุรกิจโรงกลั่น

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว แม้จะมีผู้บริหารเพียงร้อยละ 11 ที่เผยว่ามีประธานเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัลเข้ามาทำหน้าที่ขับเคลื่อนวาระต่าง ๆ ด้านดิจิทัล แต่หลายองค์กรในธุรกิจโรงกลั่นได้มุ่งไปที่การปรับแนวทางกำกับดูแล เพื่อให้องค์กรสามารถปรับโฉมปฏิรูปไปสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation)ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมรับมือกับการหลอมรวมระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบปฏิบัติการต่าง ๆ สัดส่วนที่แน่ชัดคือ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 34 ของผู้บริหาร เปิดเผยว่ากำลังเร่งปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และมากกว่า 1 ใน 4 หรือร้อยละ 28 เผยว่ามีการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ และร้อยละ 15 กล่าวว่ามีการตั้งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง (C-level) ใหม่เพิ่มขึ้น

"ปัจจุบันนี้ ธุรกิจโรงกลั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับศักยภาพแท้จริงที่ดิจิทัลสามารถทำได้" อินทิรา เหล่ามีผล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพลังงานและทรัพยากร เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว "สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ การผสานและใช้งานเทคโนโลยีต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนากระบวนการต่าง ๆ ในธุรกิจใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานในโรงงานทั้งหมด ซึ่งรายงานล่าสุดของเอคเซนเชอร์เรื่อง ดัชนีชี้วัดระดับความเสี่ยงของธุรกิจต่อการถูกเปลี่ยนโฉม (Disruptability Index) ได้ชี้ชัดว่า อุตสาหกรรมพลังงานจัดเป็นประเภทธุรกิจที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนโฉม (disruption) ในอนาคตมากที่สุด การเพิ่มการลงทุนด้านดิจิทัลอย่างมียุทธวิธี จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานและช่วยให้โรงกลั่นผ่านพ้นสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งมีสัญญาณปรากฏให้เห็นแล้วว่า ธุรกิจต่างตระหนักถึงเรื่องนี้ และกำลังดำเนินการเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลให้ได้อย่างเต็มที่"

ภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น ยิ่งต้องใช้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มเพื่อป้องกัน

การคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลองค์กรต้องยกระดับความสามารถของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในการต้านทานและโต้ตอบอยู่ตลอดเวลา โดยเห็นได้ชัดเมื่อร้อยละ 28 ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า เล็งเห็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ประเด็นที่น่าเป็นกังวลที่สุดคือ ภัยนี้เกิดขึ้นในช่วงที่การดำเนินงานในองค์กรต่างๆเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันมากกว่าในอดีต ซึ่งกลายเป็นเป้าสำหรับภัยคุกคามหลายลักษณะ โดย 1 ใน 3 หรือร้อยละ 33 ของผู้ตอบยอมรับว่า ไม่ทราบจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ว่าเกิดขึ้นจริง ๆ แล้วกี่ครั้ง

ความจำเป็นเรื่องนี้ยิ่งมีแรงกดดันมากขึ้น เมื่อร้อยละ 38 ของผู้ตอบยอมรับว่า ความปลอดภัยทางข้อมูลเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในองค์กร โดยความเสี่ยงที่ผู้ตอบแบบสำรวจเห็นว่ามีส่วนสัมพันธ์กับความปลอดภัยทางไซเบอร์คือ ผลกระทบต่อการดำเนินงาน (ร้อยละ 67) ผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของคนทำงาน (ร้อยละ 39) และการละเมิดข้อมูล (ร้อยละ 39)

อย่างไรก็ตาม มีผู้บริหารเพียงร้อยละ 28 ที่ระบุให้เครื่องมือด้านดิจิทัลที่เข้ามาเพิ่มสมรรถนะความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็น 1 ใน 3 เรื่องสำคัญที่สุดในการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และผู้ตอบก็กังวลว่าการลงทุนด้านดิจิทัลที่ไม่เพียงพอนั้น จะส่งผลต่อความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างไร (ระบุโดยร้อยละ 67 ของผู้ตอบ) กังวลว่าดิจิทัลจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไรได้อย่างไร (ร้อยละ 64) และกังวลว่าการลงทุนด้านดิจิทัลที่ไม่จริงจัง อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการดำเนินงานอย่างไร (ร้อยละ 58)

"ยิ่งเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันมากขึ้น มีความเสี่ยงและเป็นเป้าโจมตีได้ง่ายขึ้น ก็ยิ่งจำเป็นต้องลงทุน อย่างน้อยก็ต้องให้ก้าวหน้ากว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น" คุณอินทิรากล่าว "การจะก้าวไปข้างหน้าได้ก็ต้องเริ่มการลงทุนตั้งแต่วันนี้ เพื่อวางพื้นฐานความสามารถในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อการป้องกับระบบการดำเนินงานต่าง ๆ ในอนาคต"

วิธีการวิจัย

การสำรวจทางออนไลน์จัดทำในเดือนมีนาคม 2561 โดยบริษัทวิจัยเพนน์เอ็นเนอร์จี รีเสิร์ช (PennEnergy Research) ร่วมกับวารสาร Oil and Gas Journal แบบสำรวจนี้ พัฒนาโดย เอชเอสบี โซโลมอน แอสโซซิเอทส์ (HSB Solomon Associates LLC) ซึ่งเป็นกิจการผู้ให้บริการประเมินเปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmarking) และให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจน้ำมันระดับโลก ผู้ตอบแบบสำรวจเป็นสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ในเครือสำนักพิมพ์เพ็นน์เวลล์ (PennWell) ประกอบด้วยบุคคลในแวดวงอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน 169 รายใน 48 ประเทศ รวมทั้งผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง หัวหน้าแผนก วิศวกร และผู้จัดการโครงการ ที่มาจากหลายสาขาของอุตสาหกรรม

อินทิรา เหล่ามีผล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงานและทรัพยากร (Resources Operating Group) เอคเซนเชอร์

ประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๓๐ นิสิตวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวฯ มก. คว้า 3 รางวัล การแข่งขัน 5MSPP 2024 ชนะเลิศ-รองชนะเลิศอันดับ 1-ชมเชย
๑๓:๒๘ คณะวิศวฯ มก. สำรวจ-แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม พื้นที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโนนสัง จ.หนองบัวลำภู
๑๓:๑๓ ผู้บริหาร- อาจารย์ คณะวิศวฯ หารือความร่วมมือ ม.ไต้หวัน
๑๓:๔๖ DE BEAU CLINIC ตอกย้ำเป็นผู้นำคลินิกเสริมความงาม ฉลองครบรอบ 14 ปี ปล่อยโปรสุดพิเศษ!
๑๓:๒๕ PRM ขนส่งน้ำมัน Jet A1 พุ่ง อานิสงส์ท่องเที่ยวซัมเมอร์หนุน
๑๓:๒๐ วว. โดย สถานีวิจัยลำตะคอง จัดกิจกรรมต้อนรับปิดเทอม ยอดนักสืบ.โลกแมลง รุ่นที่ 1
๑๓:๔๕ ลงพื้นที่สำรวจแปลงมะพร้าวติดตามสถานณ์โรคและแมลงในช่วงฤดูแล้ง
๑๓:๒๓ แม็ทชิ่ง กรุ๊ป จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจรายได้เป็นไปตามเป้า
๑๓:๔๖ เอเอ็มอาร์ เอเซีย จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผ่านฉลุย ผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบทุกวาระ
๑๓:๑๙ Prepay Nation ร่วมมือกับ MULA เพื่อลดช่องว่างทางการเงินสำหรับแรงงานต่างด้าว