มร. เจี๋ย หย่งลี่ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ EI ธุรกิจคลาวด์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า "นับตั้งแต่เปิดตัว Cloud EI ในงาน HUAWEI CONNECT 2017 หัวเว่ยคลาวด์ได้ดำเนินการศึกษาโครงการต่าง ๆ กว่า 200 โครงการใน 8 อุตสาหกรรม ครอบคลุมระบบของเมือง การผลิต โลจิสติกส์ และอินเทอร์เน็ต โดยได้สรุปข้อค้นพบหลักๆ 3 ประการ ดังนี้ 1) AI ช่วยให้ IT พัฒนาจากระบบสนับสนุนไปสู่ระบบการผลิต 2) การรวม AI เข้ากับความเชี่ยวชาญของอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ยาก และ 3) พลังของการประมวลผลเป็นอุปสรรคสำคัญหลักในการปรับใช้ AI"
Huawei Cloud EI ยกระดับความทันสมัยของอุตสาหกรรม
เพื่อพูดถึงการผสมผสานความชำนาญของอุตสาหกรรมเข้ากับ AI มร. เจี๋ยกล่าวว่า "Huawei Cloud EI จะช่วยปรับปรุงงานในอุตสาหกรรมให้ดีขึ้นใน 3 ด้าน ได้แก่ งานที่ซ้ำซ้อนและปริมาณมาก งานที่ต้องใช้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ และงานที่ต้องการความร่วมมือในหลายๆ ด้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ และทลายข้อจำกัด"
สำหรับงานที่มีลักษณะซ้ำซ้อนหรือจำนวนมหาศาล บริการ Huawei Cloud EI จะช่วยเลือกชุดกลุ่มข้อมูลที่ใช้บ่อยในการดำเนินงานขององค์กร เช่น บริการ Huawei Cloud EI สองตัว คือ บริการการเรียนรู้เชิงลึก และบริการค้นหาภาพ ได้ช่วย China Gallery นำเข้าและตรวจเช็คลิขสิทธิ์ของภาพนับแสนภาพ และภาพอีกหลายสิบล้านภาพในอินเทอร์เน็ตทุก ๆ วัน โดยมีอัตราความถูกต้องถึง 99%
สำหรับงานที่ต้องใช้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี AI สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น เมื่อผสานรวมกับประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ หรือความชำนาญในอุตสาหกรรม ยกตัวอย่าง ทีมภาพของ Huawei Cloud EI ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ KingMed Diagnostics ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้การทดสอบวินิจฉัยทางการแพทย์ การใช้เทคโนโลยี AI ทำให้บริษัทพันธมิตรได้ค้นพบพยาธิสภาพในการตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยมีความไว (ผลบวก) มากกว่า 99% และมีความจำเพาะ (ผลลบ) มากกว่า 80%
ในส่วนของงานที่ซับซ้อนและต้องเกี่ยวข้องกับพารามิเตอร์ต่างๆ การพึ่งพาที่ซับซ้อนและมิติการทำงานร่วมกันแบบหลายส่วน เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการกำกับดูแลเมือง เทคโนโลยี AI ได้นำแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ มาใช้กับงานลักษณะนี้
หัวเว่ยเปิดตัว EI Intelligent Twins สำหรับเมืองต่างๆ
หัวเว่ยคลาวด์ได้เปิดตัว EI Intelligent Twins สำหรับเมืองและสถานการณ์ในเมืองที่ซับซ้อน
โซลูชั่น EI Intelligent Twins สำหรับดูแลความเรียบร้อยของเมือง โดยอาศัยหลักการ Digital Twin ใช้ AI เพื่อทำหน้าที่ผสานเทคโนโลยีคลาวด์, บิ๊กดาต้า, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์, เอดจ์ คอมพิวติ้ง และเทคโนโลยีอื่น ๆ และเพื่อสร้างระบบที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การสร้างข้อมูลและการวิเคราะห์ ไปจนถึงการบริหารแบบ closed-loop พลังการประมวลผลที่แข็งแกร่งช่วยให้เราสามารถตรวจสอบการตั้งเวลาและการกำหนดค่าทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านต่างๆ เช่น การจราจร, การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม, การตอบสนองฉุกเฉิน และระบบน้ำประปา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อมไปด้วยในขณะเดียวกัน
มร. หลี่ เฉียง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี กองตำรวจจราจรของเซิ่นเจิ้น ได้กล่าวในช่วงประชุมของงาน HUAWEI CONNECT 2018 ว่า "เรากำลังใช้ AI ในการสร้างเทคโนโลยีการดูแลความเรียบร้อยของชุมชนอัจฉริยะ และสมองจราจรอัจฉริยะ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การเดินทางสำหรับทุกคน" เขาได้กล่าวชื่นชมโซลูชั่นใหม่ และกล่าวถึง 3 ประเด็นสำคัญของการบริหารจัดการจราจรในยุคใหม่ ประการแรกคือ AI ทำให้การบังคับใช้กฎหมายทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อนำแอพพลิเคชั่น AI เข้ามาช่วยในการตรวจจับการละเมิดกฎจราจรต่าง ๆ เช่น การพูดคุยโทรศัพท์ในขณะขับรถ และไม่สวมเข็มขัดนิรภัย ตำรวจจราจรเซิ่นเจิ้นสามารถที่จะเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายได้เพิ่มขึ้น 15% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ประการที่สองคือ โซลูชั่นนี้ได้กำหนดนิยามใหม่ของการจัดระบบจราจร แทนที่จะเน้นควบคุมการจราจรด้วยสัญญาญไฟ ก็ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปล่อยรถ โดยพิจารณาจากปริมาณรถบนท้องถนน กองตำรวจจราจรของเซิ่นเจิ้นกำลังใช้งาน TrafficGo ซึ่งเป็นโซลูชั่น EI Traffic Intelligent Twins ของหัวเว่ย ที่ทางแยก 43 แห่งในเขตป่านเถียน เมืองเซินเจิ้น เพื่อควบคุมเวลาของสัญญาณแบบออนไลน์ นับแต่เริ่มใช้งานจนถึงตอนนี้ โซลูชั่นดังกล่าวสามารถเพิ่มความเร็วของการปล่อยรถให้สูงขึ้นได้มาก โดยเวลาเฉลี่ยในการรอที่แยกจราจรหลักๆ น้อยลง 17.7% และประการสุดท้ายคือ ได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการใหม่เพื่อร่นระยะเวลาการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เช่น เจ้าหน้าที่สายตรวจของกองตำรวจจราจรเซินเจิ้นสามารถลดเวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินลงได้ราว 67%
มร. จาง หมิ่นเจ๋อ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการลงทุนด้านกลยุทธ์ของบริษัท ซานเลี่ยน โฮป กล่าวว่า "ในด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีหลักมีผลต่อคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการใช้พลังงาน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันของสายการผลิต ซานเลี่ยน โฮป มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเส้นใยสังเคราะห์ เราใช้โซลูชั่น EI Industrial Intelligent Twins ของหัวเว่ย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตที่ยืดหยุ่น และตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โซลูชั่นดังกล่าวยังปรับได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อสร้างระบบการผลิตที่ยืดหยุ่น ควบคุมด้วยซอฟท์แวร์ มีความถูกต้องและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มอัตราส่วนการตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น 28.5% และความสามารถของโซลูชั่นนี้ก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี"
คุณสมบัติของ Huawei Cloud EI มีการอัพเกรดอย่างรวดเร็ว
เพื่อเพิ่มศักยภาพของหัวเว่ยคลาวด์ในทุกรูปแบบการใช้งาน หัวเว่ย ได้เปิดตัวชิพ AI รุ่น Ascend 310 และ 910
นอกจากนี้ Huawei Cloud EI ยังมีบริการต่างๆ มากถึง 45 บริการ และ 142 ฟังก์ชั่นการทำงาน ครอบคลุมบริการแพลตฟอร์มสำคัญ ๆ, API ทั่วไป, API ขั้นสูง และโซลูชั่นพรี-อินทิเกรชั่น บริการและฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำให้การรวมผสาน AI เกิดขึ้นได้ สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าหน้าที่กลุ่มต่าง ๆ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลอาวุโสด้าน AI, วิศวกรข้อมูล, วิศวกรด้านไอทีทั่วไป และบุคลากรทางธุรกิจ
ในช่วงท้าย มร. เจี๋ย หย่งลี่ ได้กล่าวว่า "การเพิ่มพลังการประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วยชิป AI ของหัวเว่ย ทำให้หัวเว่ยคลาวด์ก้าวเข้าสู่ยุค AI เราหวังว่าพันธมิตรของหัวเว่ยจะได้นำโซลูชั่น Huawei Cloud EI Intelligent Twins ไปใช้งานต่อไป เพื่อสร้างเมืองที่ดีกว่าเดิมทั่วโลก โซลูชั่น EI Intelligent Twins ของหัวเว่ยจะได้รับการผนวกรวมเข้ากับความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี AI แบบหลอมรวม ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้บริการ AI ที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ ในราคาที่ไม่แพง"
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.huawei.com/en/press-events/events/huaweiconnect2018?ic_medium=hwdc&ic_source=corp_banner_allwayson&source=corp_banner