ที่งาน Smart City Expo World Congress (SCEWC) 2018 ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย. หัวเว่ย ได้จัดแสดง Digital Platform ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยี ICT ใหม่สุดก้าวล้ำ ไม่ว่าจะเป็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT), บิ๊กดาต้า และคลาวด์ ซึ่งช่วยให้เกิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและชาญฉลาด โดยหัวเว่ยและพันธมิตรระดับโลกได้ร่วมกันสาธิตโซลูชั่นต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการเทศบาล ความปลอดภัยสาธารณะ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการขนส่งอัจฉริยะ รัฐบาลอัจฉริยะ การศึกษาอัจฉริยะ และการเกษตรอัจฉริยะ โซลูชันเหล่านี้ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการเมือง ปรับปรุงบริการสาธารณะ รวมทั้งช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ที่งาน SCEWC หัวเว่ยยังได้จัดงานประชุม Global Smart City Summit 2018 ภายใต้หัวข้อ "Digital Platform Empowers Smart City+" เพื่อแนะนำ Digital Platform for Smart Cities ของหัวเว่ย ซึ่งที่งานซัมมิตนี้ บรรดาสมาคมอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ TM Forum และ EUROCITIES ตลอดจนตัวแทนจากสิงคโปร์ เมืองเกลเซนเคียร์เชินของเยอรมนี รวมถึงเมืองยานบูและจาซาน ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้มาร่วมแบ่งปันแนวความคิดและประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ร่วมกับผู้บริหารเมืองมากกว่า 400 เมืองจากทั่วโลก
สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนสมาร์ทซิตี้
ปัจจุบัน ในหลายเมืองของโลก เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ได้หลอมรวมเข้ากับทุกด้านของเมืองจนแทบจะแยกไม่ออก เช่น การบริหารจัดการเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมือง ความปลอดภัยสาธารณะ และการพัฒนาอุตสาหกรรม และเมื่อประกอบกับการที่เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังขยายตัวทั่วโลก จึงส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วทุกมุมโลก ซึ่งการพัฒนาเมืองอัจฉริยะก็ได้ผ่านมาแล้วหลายระยะ ตั้งแต่ระยะแรกที่เมืองต่าง ๆ ต้องแก้ปัญหาการจัดเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจาย ระยะที่สองซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้งานแอปพลิเคชันโมบายอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น และระยะที่สามซึ่งเมืองต่าง ๆ หันมาใช้ IoT เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลปริมาณมหาศาล และขณะนี้กำลังอยู่ในระยะที่สี่ของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ด้วยการปรับปรุงขีดความสามารถในการบริหารจัดการเมืองผ่านการทำเหมืองข้อมูล โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
นายหม่า เยวี่ย รองประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย และประธานฝ่ายขายทั่วโลกของกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า "การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนสูง ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ ICT ชั้นนำของโลกที่มอบประสิทธิภาพการทำงานแบบ cloud-pipe-device หัวเว่ยจึงสามารถผนวกรวมคลาวด์, IoT, วิดีโอ และเอดจ์คอมพิวติ้ง เข้ากับเทคโนโลยี AI ซึ่งช่วยเชื่อมโยงระบบประสาทของทั้งเมือง ประกอบด้วย 'สมอง' (ศูนย์บัญชาการ), 'ระบบประสาทส่วนกลาง' (เครือข่าย), และ 'ระบบประสาทรอบนอก' (เซ็นเซอร์) สิ่งนี้ก่อให้เกิดเป็นแพลตฟอร์ม '+AI Digital Platform' ที่เปิดกว้างและเป็นขุมพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของเมืองแห่งอนาคต แพลตฟอร์มดังกล่าวของหัวเว่ยทำหน้าที่เหมือนระบบปฏิบัติการ โดยสามารถทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่แตกต่างกัน ตลอดจนสร้างเมืองดิจิทัลคู่ขนาน และรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันที่หลากหลาย Digital Platform ของหัวเว่ย มีประสิทธิภาพสูงและเปิดรับการร่วมมือกับพันธมิตรในระบบนิเวศ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัลดังกล่าวยังนำเสนอการออกแบบชั้นนำ การรวมระบบ การปฏิบัติการ การบริการ และขีดความสามารถด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ สำหรับในอนาคต แพลตฟอร์ม +AI Digital Platform ของหัวเว่ย จะเข้าไปมีบทบาทในการวางรากฐานระบบอัจฉริยะให้กับเมืองต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืนทั่วโลก เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้สร้างมาตรฐานเมืองอัจฉริยะร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรของเรา"
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำความคิดจากหลากประเทศและหลายอุตสาหกรรมยังเชื่อว่า การสร้างเมืองอัจฉริยะทั่วโลกเป็นการส่งสัญญาณถึงการถือกำเนิดขึ้นของยุคแห่งแพลตฟอร์ม
หัวเว่ย เผยโฉม Digital Platform for Smart Cities ภายใต้กลยุทธ์ "Platform + Ecosystem"
ที่งานประชุมซัมมิต หัวเว่ยได้เปิดตัว Digital Platform for Smart Cities โดยมี AI เป็นหัวใจหลักของแพลตฟอร์ม และยังประกอบไปด้วยเทคโนโลยี IoT บิ๊กดาต้า ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) คลาวด์วิดีโอ และทรัพยากรการสื่อสารที่หลอมรวมกัน แพลตฟอร์มนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบสารสนเทศแบบเดิม ๆ และวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มมิดเดิลแวร์ เพื่อให้บริการต่าง ๆ แก่พันธมิตรด้านแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ โดยช่วยให้พันธมิตรด้านแอปพลิเคชันสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันในระดับ upper-layer ได้เร็วขึ้น เพื่อเร่งผลักดันการเปลี่ยนแปลงและการคิดค้นนวัตกรรมในการบริหารจัดการเมือง การบริการต่าง ๆ ในเมือง และการพัฒนาอุตสาหกรรม
Digital Platform for Smart Cities ของหัวเว่ย ใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถเฉพาะตัวหลายด้าน ประการแรก หัวเว่ยเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมที่ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบ full-stack ครอบคลุมเทคโนโลยี cloud-pipe-device รวมทั้งให้บริการแพลตฟอร์มในรูปแบบของ Platform as a Service (PaaS) ประการที่สอง Digital Platform for Smart Cities มีองค์ประกอบและขีดความสามารถที่ครอบคลุมในระดับ PaaS ซึ่งรวมถึง IoT, บิ๊กดาต้า, GIS, วิดีโอคลาวด์, การสื่อสารที่หลอมรวม, AI, และความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัลของหัวเว่ยยังประกอบด้วย industry enablement platform ที่รวมขีดความสามารถเหล่านี้ไว้ ข้อได้เปรียบที่ยั่งยืนของหัวเว่ยเป็นผลมาจากชิป อัลกอริทึม และการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นเอง ร่วมด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการลงทุนด้าน R&D อย่างต่อเนื่อง
จนถึงปัจจุบัน Huawei Smart City Solution ได้ให้บริการเมืองต่าง ๆ แล้วมากกว่า 160 เมืองในกว่า 40 ประเทศ ตัวอย่างเช่น ในเมืองดุยส์บวร์ก ประเทศเยอรมนี และซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี โซลูชั่นดังกล่าวได้ช่วยสนับสนุนการพัฒนาบริษัทสตาร์ทอัพ ผ่านทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนของเมือง เช่นเดียวกับชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมือง ขณะที่ในรุสเทนเบิร์ก แอฟริกาใต้ และในเซอร์เบียนั้น เทคโนโลยีดิจิทัลยังคงช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของเมืองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ที่หมู่เกาะภูเขาไฟในแอตแลนติกเหนือ และที่เขตปินไห่ (Binhai New Area) ของนครเทียนจินนั้น AI ได้ช่วยให้เมืองเหล่านี้เข้าใจประชาชนมากขึ้น เพื่อยกระดับบริการต่าง ๆ ของเมือง
หัวเว่ยทำงานร่วมกับเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อผลักดันการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลโดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัท ซึ่งหลอมรวมโซลูชั่นต่าง ๆ จากพันธมิตรในระบบนิเวศ และรวมการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกราย สำหรับในอนาคต แพลตฟอร์มดิจิทัลของหัวเว่ย พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ล่าสุดของบริษัท จะกลายเป็นรากฐานของเมืองอัจฉริยะอีกหลายเมือง ซึ่งจะนำดิจิทัลไปถึงทุกคน ทุกองค์กร และทุกอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์"
งาน Smart City Expo World Congress (SCEWC) 2018 จัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน สามารถพบกับ หัวเว่ย ได้ที่บูทหมายเลข B200 ในห้องจัดแสดง Gran Via 2 (Hall 2) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวเว่ยที่งาน SCEWC ได้ที่: http://e.huawei.com/topic/smartcity2018/en/index.html
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20181113/2298393-1
คำบรรยายภาพ: บูทของหัวเว่ยที่งาน Smart City Expo World Congress (SCEWC) 2018 ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน