ในระหว่างการกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "5G is on, Taking Mobile to New Horizons" มร. ติง กล่าวว่า 5G กำลังจะเปิดศักราชหน้าใหม่ให้กับวงการ ICT และมีศักยภาพที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อได้ถึงสิบเท่า 5G จะนำโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนมาสู่อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ เอกสาร Release 15 ซึ่งเป็นมาตรฐาน 5G ฉบับแรก เน้นไปที่ eMBB หรือ Enhanced Mobile Broadband ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้แต่ละรายใช้ข้อมูลมากขึ้น เนื่องจากสามารถทำอะไรได้มากขึ้นเมื่อเชื่อมต่อเครือข่าย 5G จะทำให้ครัวเรือนมีแบนด์วิดท์สูง และทำให้การเชื่อมต่อ WTTx เป็นทางเลือกแรกสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ นอกจากนี้ 5G ยังทำให้เกิดคุณสมบัติใหม่ ๆ ขึ้นอีก รวมทั้งการเชื่อมต่อจำนวนมาก ความเร็วระดับ superfast และความหน่วงที่ต่ำมาก ซึ่งจะพลิกโฉมให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และสร้างมูลค่ามหาศาลให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำกำลังเร่งเดินหน้าติดตั้งใช้งาน 5G ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากผู้ที่ลงมือก่อนก็ย่อมจะได้รับผลตอบแทนกลับมาก่อน การพัฒนา 5G ก็กำลังก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยปัจจัยสองประการ คือ 1) ประเทศใหญ่ ๆ จะเป็นผู้ใช้ 5G กลุ่มแรกๆ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะคิดเป็นจำนวนหนึ่งในสามของประชากรโลก ซึ่งเป็นสเกลการใช้งานที่ใหญ่กว่าคลื่นลูกแรก ๆ ของการให้บริการ 3G และ 4G เชิงพาณิชย์
ปัจจัยที่สองคือ อุตสาหกรรมดีไวซ์ โดยสมาร์ทโฟน 5G จะเริ่มวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2562 รวมถึงโทรศัพท์ 5G แบบพับได้ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้ ผู้ผลิตโทรศัพท์ชั้นนำจะเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นประหยัด (ราคาประมาณ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ) อย่างรวดเร็วหลังการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม 5G ก้าวรุดหน้าต่อไป
"ทุกๆ เครือข่ายรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ ๆ และก็เช่นเดียวกับการติดตั้งใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ ด้วย" มร. ติง กล่าว "เรารับเอาความซับซ้อนมาและมอบความเรียบง่ายกลับไปให้ ซึ่งหมายความว่าเราจะจัดหาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อจัดการกับความท้าทายในการให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ การทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของเรากับผู้ให้บริการจะช่วยให้พวกเขาค้นพบวิธีการที่ง่ายดายในการก้าวสู่ 5G"
ในระหว่างแสดงปาฐกถา มร. ติง ยังได้แนะนำโซลูชันใหม่ของหัวเว่ย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้ง 5G เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม โซลูชัน Massive MIMO ขนาดกะทัดรัดของหัวเว่ย มี AAU ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและเล็กที่สุดในโลก และมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทำหน้าที่ได้อย่างน่าเชื่อถือแม้ในช่วงไต้ฝุ่นระดับ 15 เนื่องจากสถานีฐานที่มีอยู่ค่อนข้างแออัด โซลูชัน 1+1 simplified antenna ของหัวเว่ย จะช่วยให้ไซต์มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยลดต้นทุนค่าเช่าให้กับผู้ให้บริการ หัวเว่ยยังมีโซลูชันแยกการเชื่อมโยงสัญญาณ uplink และ downlink ซึ่งสามารถประสานการครอบคลุมของ 4G และ 5G C-band ทำให้ผู้ใช้งานมีการครอบคลุมของสัญญาณที่ราบรื่น โซลูชันพลัง 5G และโซลูชันคลื่นไมโครเวฟของหัวเว่ยจะช่วยผู้ให้บริการสร้างระบบ 5G ได้รวดเร็วและง่ายดายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง หัวเว่ยยังใช้ AI เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดความซับซ้อนของระบบปฏิบัติการและบำรุงรักษา (O&M) รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (OPEX) ลงได้อีกด้วย
"การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" มร. ติง กล่าว "5G เริ่มต้นขึ้นแล้ว และผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5G ที่เป็นนวัตกรรมระดับแนวหน้าพร้อมด้วยประสิทธิภาพครบวงจรของหัวเว่ย ก็ได้รับการยอมรับจากลูกค้า โดยจนถึงปัจจุบันนี้ เราได้ลงนามสัญญา 5G กับลูกค้าไปแล้ว 22 ราย และเราก็กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการกว่า 50 รายในการดำเนินการทดสอบ 5G เชิงพาณิชย์ ด้วยการลงทุนอย่างหนักและนวัตกรรมที่มีต่อเนื่อง เราจึงมุ่งมั่นที่จะช่วยผู้ให้บริการติดตั้งใช้งานเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากและคุ้มค่า และเราก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม 5G ให้แข็งแกร่งต่อไป"