นายธนิก นิธิพันธวงศ์ คิดที่จะเริ่มโปรเจคนี้เพื่อมุ่งที่จะส่งเสริมการขนส่งทางอากาศโดยเฉพาะในเชิงพาณิชย์ และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดโลกในทศวรรษหน้า เช่นการนำเทคโนโลยีของโดรนไปใช้สำหรับรถแท็กซี่ลอยฟ้า หรือ air taxi เป็นต้น
เพื่อให้การบริหารโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนา "มานะ" เครื่องบินโดรนไทยได้ถูกแบ่งเป็นสามส่วนดังต่อไปนี้
โครงสร้าง Airframe ที่ต้องมีความแข็งแรงพอที่จะยึดเหนี่ยวทุกชิ้นส่วนไว้ด้วยกัน แต่ก็ต้องคุมน้ำหนักไว้ให้เบาที่สุดและยากต่อการเผาไหม้
พลังงานขับเคลื่อน Powerplant ที่สามารถยกทั้งตัวโดรนและสิ่งของขึ้นไปบนอากาศได้ ทั้งยังต้องทนกับความร้อนโดยไม่ให้เกิดการระเบิดขึ้นได้
ระบบบังคับ Flight Controller ที่มีการทรงตัวและเคลื่อนย้ายอย่างมั่นคง กับการสื่อสารระหว่างตัวโดรนและแผงบังคับที่มีประสิทธิภาพ
แม้ว่าตลาดทางด้านโดรนเพี่อการขนส่งยังไม่ปรากฏ แต่ข้อมูลและงานวิจัยของโครงการนี้จะสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาโดรนแท็กซี่ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ โดยใช้ทุนที่น้อยกว่าและให้ผลลัพธ์ที่ใช้การได้ เหมือนกับการพัฒนาเครื่องบินซึ่งมีการใช้โมเดลขนาดเล็กมาช่วยในการคิดค้นและออกแบบนั่นเอง
นับว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสให้วิศวกรไทยได้แสดงความรู้ความสามารถและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศอีกด้วย