การแบ่งระดับชั้นข้อมูล: กรณีศึกษาสำหรับการใช้งาน Cloud Volumes ONTAP

ศุกร์ ๑๓ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๓:๕๑
ข้อมูลคือหัวใจสำคัญของธุรกิจ ปัจจุบันข้อมูลถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทต่างๆ จะต้องดำเนินกลยุทธ์ด้านการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการจัดเตรียมข้อมูลทั้งหมดให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น กลยุทธ์ดังกล่าวนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น การจัดเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยการแบ่งระดับชั้นข้อมูลที่แตกต่างกันบนระบบคลาวด์ เพื่อให้ชนิดของที่เก็บข้อมูลหรือสตอเรจสอดคล้องกับความต้องการในการดำเนินงาน การแบ่งระดับชั้นข้อมูล (Data Tiering) ใน Cloud Volumes ONTAP จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถแบ่งระดับชั้นข้อมูลบนระดับชั้นต่างๆ ของสตอเรจได้อย่างยืดหยุ่นตามความจำเป็น ฟังก์ชั่นนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการสตอเรจอย่างมีประสิทธิภาพ

การแบ่งระดับชั้นข้อมูลคืออะไรผู้ให้บริการคลาวด์นำเสนอที่เก็บข้อมูลหรือสตอเรจหลายชนิด โดยแต่ละชนิดมีการหน่วงเวลา ความเร็วในการรับส่งข้อมูล และโครงสร้างราคา ฯลฯ ที่แตกต่างกัน เนื่องจากมูลค่าของข้อมูลและการใช้งานอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปจึงอาจต้องการความสามารถของสตอเรจชนิดหนึ่งมากกว่าอีกชนิดหนึ่ง การแบ่งระดับชั้นข้อมูลเป็นวิธีการที่รองรับการย้ายข้อมูลไปยังสตอเรจที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ

ข้อมูลอาจถูกแบ่งชั้นตามชนิดและคลาสของสตอเรจ ทางเลือกหนึ่งสำหรับสถาปัตยกรรมการแบ่งระดับชั้นข้อมูลก็คือ การใช้บล็อกสตอเรจเป็นชั้นที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับข้อมูลแบบ "Hot" ที่ใช้งานเป็นประจำ ขณะที่อ็อบเจ็กต์สตอเรจใช้อันดับชั้นความจุที่มีราคาถูกกว่ารองรับข้อมูลแบบ "Cold" ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่น สำเนาข้อมูลสำหรับการแบ็คอัพและกู้คืนระบบอาจถูกเก็บไว้บนระดับชั้นความจุที่มีราคาถูกกว่า และกู้คืนโดยอัตโนมัติในกรณีที่จำเป็น

การใช้งานอีกกรณีหนึ่งสำหรับการแบ่งระดับชั้นข้อมูลเกี่ยวข้องกับวงจรการใช้งานข้อมูล และการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบไดนามิกระหว่างบล็อกสตอเรจและอ็อบเจ็กต์สตอเรจ เช่น ในโรงพยาบาล ข้อมูลเวชระเบียนของผู้ป่วยถูกเรียกใช้งานเป็นประจำขณะที่ผู้ป่วยกำลังเข้ารับการรักษา ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บไว้ในระดับชั้นของบล็อกสตอเรจประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อการรักษาผู้ป่วยคนนั้นเสร็จสมบูรณ์ ข้อมูลเวชระเบียนของเขาก็ไม่ได้ถูกเรียกใช้งานมากนักหรือไม่ได้ใช้งานเลย แต่ข้อมูลนี้จะต้องถูกเก็บไว้สำหรับผู้ป่วยคนนั้น หรือตามกฎระเบียบ เช่น HIPAA ได้ระบุว่าจะต้องจัดเก็บข้อมูลตามระยะเวลาที่กำหนด วิธีจัดเก็บข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การย้ายข้อมูลไปยังระดับชั้นความจุที่มีราคาถูกกว่าจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นที่ต้องใช้ข้อมูลนั้นอีกครั้ง

การแบ่งระดับชั้นข้อมูลในคลาวด์ระหว่างระดับชั้นที่มีประสิทธิภาพสูงกับระดับชั้นที่มีความจุสูงอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการปรับปรุงการใช้งานและค่าใช้จ่ายด้านสตอเรจ แต่ก็ยังมีปัญหาท้าทายบางประการ เช่น:

- การแบ่งระดับชั้นด้วยตนเองเป็นวิธีที่ไร้ประสิทธิภาพ: เนื่องจากข้อมูลที่ต้องจัดเก็บมีจำนวนมหาศาล ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุด้วยตนเองว่าข้อมูลอะไรเป็นข้อมูล Hot หรือ Cold แล้วแบ่งระดับชั้นข้อมูลระหว่างระดับชั้นต่างๆ ของสตอเรจอย่างมีประสิทธิภาพ

- ไม่มีบริการสนับสนุนแบบในตัว: แม้ว่าจะมีทางเลือกสำหรับการแบ่งระดับชั้นระหว่างคลาสสตอเรจต่างๆ ที่ Amazon S3 และ Azure Blob นำเสนอ แต่ก็ไม่มีบริการสนับสนุนแบบในตัวสำหรับการแบ่งระดับชั้นข้อมูลโดยอัตโนมัติระหว่างบล็อกสตอเรจและอ็อบเจ็กต์สตอเรจ

- ปัญหาเรื่องขนาด/ค่าใช้จ่าย: ระดับชั้นความจุของอ็อบเจ็กต์สตอเรจอาจมีราคาถูกกว่า แต่ผู้ให้บริการคลาวด์กลับคิดค่าใช้จ่ายตามขนาดพื้นที่ที่ใช้ (GB) นอกจากนี้บริการสตอเรจไม่มีวิธีการแบบในตัวสำหรับจัดเก็บข้อมูลของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน การบีบอัดข้อมูล หรือการจองพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ Thin Provisioning

ในการแก้ไขปัญหาท้าทายเหล่านี้สำหรับการแบ่งระดับชั้นข้อมูล Cloud Volumes ONTAP นำเสนอความสามารถในการแบ่งระดับชั้นข้อมูลโดยอัตโนมัติอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลไปยังชนิดสตอเรจที่เหมาะสมที่สุด

การแบ่งระดับชั้นสตอเรจด้วย Cloud Volumes ONTAP: จากบล็อกสตอเรจสู่อ็อบเจ็กต์สตอเรจและย้ายกลับมาขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์รองรับการแบ่งระดับชั้นข้อมูลภายในคลาสสตอเรจต่างๆ ของบริการแบบอ็อบเจ็กต์ แต่ Cloud Volumes ONTAP รองรับการถ่ายโอนข้อมูลอัตโนมัติจากบล็อกสตอเรจไปยังอ็อบเจ็กตสตอเรจอย่างราบรื่นทั้งใน AWS และ Azure เนื่องจากอ็อบเจ็กต์สตอเรจมีราคาถูกกว่าบล็อกสตอเรจอย่างมากการใช้ฟังก์ชั่นนี้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบ Cold จึงอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมากเลยทีเดียว

Cloud Volumes ONTAP นำเสนอ 3 นโยบายสำหรับการแบ่งระดับชั้นข้อมูล ได้แก่ อัตโนมัติ (Auto), สแน็ปช็อตเท่านั้น (Snapshot Only) และการกู้คืนระบบ (DR) นโยบายเหล่านี้มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถปรับแต่งได้สำหรับแต่ละวอลลุ่ม:

- อัตโนมัติ ในตัวเลือกนี้ ข้อมูลแบบ Cold จะถูกเก็บไว้ในอ็อบเจ็กต์สตอเรจ โดยมีระยะเวลาการจัดเก็บ 31 วัน หรือตามที่ผู้ใช้กำหนด เมื่อจำเป็นต้องใช้ข้อมูลอีกครั้ง Cloud Volumes ONTAP ก็จะส่งกลับไปที่บล็อกสตอเรจโดยอัตโนมัติ

- สแนปช็อตเท่านั้น ข้อมูลสแนปช็อตจะถูกเก็บไว้ในอ็อบเจ็กต์สตอเรจ โดยมีระยะเวลาการจัดเก็บ 2 วัน หากมีการอ่านข้อมูลสแนปช็อต ข้อมูลก็จะถูกย้ายกลับไปยังสตอเรจประสิทธิภาพสูง

- DR นโยบายนี้ออกแบบมาสำหรับสำเนาข้อมูลที่ใช้ในการกู้คืนระบบและการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว (Archive) โดยข้อมูลจะค่อยๆ ถูกย้ายกลับไปยังบล็อกสตอเรจ หากถูกเรียกใช้งานในกรณีที่ระบบล้มเหลวหรือต้องการกู้คืนระบบ

การแบ่งระดับชั้นข้อมูลด้วย Cloud Volumes ONTAP: กรณีศึกษาของลูกค้าบริษัทจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ด้วยการแบ่งระดับชั้นข้อมูลโดยใช้ Cloud Volumes ONTAP ในส่วนนี้ จะกล่าวถึง 3 ตัวอย่างจากองค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้ฟังก์ชั่นการแบ่งระดับชั้นข้อมูลใน Cloud Volumes ONTAP เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้งานสตอเรจและลดค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์ได้อย่างมาก

Reach PLC (เดิมชื่อว่า Trinity Mirror)Reach เป็นสำนักข่าวรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร มีผู้อ่านหลายล้านคนในแต่ละเดือน เผยแพร่หนังสือพิมพ์ฉบับสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์กว่า 200 ฉบับ รวมถึงสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Sunday Mirror, Daily Mirror, Daily Express และ Sunday Express

การดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลของบริษัทเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เมื่อมีการปรับใช้กลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์ และเริ่มโยกย้ายข้อมูลไปยัง AWS อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเพิ่มความสะดวกในการโยกย้ายข้อมูล โดยเน็ตแอพช่วยจัดหาแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลให้แก่ Reach เพื่อให้สามารถจัดการเนื้อหาคอนเทนต์และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบต่างๆ ทั้งหมด

Cloud Volumes ONTAP มีความสามารถในการแบ่งระดับชั้นข้อมูล จะช่วยให้ Reach จัดการสิ่งที่สำคัญที่สุดของธุรกิจนั่นคือ "ข้อมูล" Reach รองรับแหล่งเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของรูปภาพ ข้อความ และวิดีโอ ที่จะต้องประมวลผลเพื่อเตรียมพร้อมสู่กระบวนการจัดพิมพ์อย่างรวดเร็ว แค่เฉพาะในส่วนของรูปภาพก็ได้รับมากกว่า 100,000 ภาพต่อวัน Cloud Volumes ONTAP ช่วยให้ Reach สามารถแบ่งระดับชั้นข้อมูลไปยังสตอเรจ Amazon S3 และจัดเก็บข้อมูลระยะยาวโดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของตัวเลือกดิสก์ที่ถูกที่สุดของ Amazon นับว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บไลบรารีรูปภาพ

นอกเหนือจากการแบ่งระดับชั้นข้อมูลแล้ว Reach ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บข้อมูลบน AWS ได้ถึง 50% ด้วยการใช้ฟีเจอร์ด้านประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลของเน็ตแอพ เช่น การบีบอัดข้อมูล, Thin Provisioning และการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเกินกว่าที่ Reach คาดหวังไว้ และทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้นั้นได้ถูกนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายกิจการของบริษัทฯ

Mellanox TechnologiesMellanox Technologies บริษัทซัพพลายเออร์ข้ามชาติระดับชั้นนำสำหรับการจัดหาโซลูชั่นการเชื่อมต่อ Ethernet และ InfiBand เช่น อแด็ปเตอร์เครือข่าย โปรเซสเซอร์ สวิตช์ และสายเคเบิล ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับธุรกิจ บริษัทฯ มีโรงงานผลิตหลายแห่งทั่วโลก และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น โทรคมนาคม บริการด้านการเงิน และการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย

ในการดำเนินโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลและเพิ่มความรวดเร็วในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด Mellanox มองหาโซลูชั่นที่จะช่วยรวมศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่แยกออกจากกันเข้าไว้บนแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่รองรับการใช้งานร่วมกันและปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น บริษัทฯ เลือกใช้เทคโนโลยีของเน็ตแอพสำหรับงานนี้ ด้วยความสามารถที่เหนือกว่า และให้ไฮบริดโซลูชั่นตอบสนองความต้องการเป็นอย่างมาก ช่วยให้ Mellanox สามารถบูรณาการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ติดตั้งภายในองค์กรเข้ากับระบบคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ

Cloud Volumes ONTAP ช่วยให้ Mellanox แบ่งระดับชั้นข้อมูลแบ็คอัพและการกู้คืนข้อมูล (DR) มากถึง 90% ไปยังสตอเรจ Azure Blob ซึ่งเป็นบริการอ็อบเจ็กต์สตอเรจของ Azure จึงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่บั่นทอนประสิทธิภาพ เพราะข้อมูลที่ใช้งานเป็นประจำถูกเก็บไว้บน SSD และดังนั้นจึงเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

Cloud Volumes ONTAP ทำให้การดำเนินงานของ Mellanox ถูกรวมศูนย์ไว้บนแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและปรับขนาดได้อย่างเหมาะสม บริษัทฯ จึงสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากโรงงานผลิตหลายแห่ง และสามารถทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และด้วยการใช้ฟีเจอร์แบบในตัวของ Cloud Volumes ONTAP สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บข้อมูล เช่น การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน Mellanox จึงสามารถลดขนาดข้อมูลที่ใช้งานจริงได้ถึง 69%

OfficeworksOfficeworks ผู้ค้าปลีกวัสดุเครื่องใช้สำนักงานชั้นนำของออสเตรเลีย มีพนักงานกว่า 7,000 คนและมีสาขากว่า 160 แห่ง หลังจากที่ย้ายเวิร์กโหลดบางส่วนไปยัง AWS บริษัทฯ ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากระบบรุ่นเก่า และหันมาใช้กลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์ ที่จะช่วยปรับปรุงการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการใช้งาน Cloud Volumes ONTAP ของเน็ตแอพ Officeworks ได้เริ่มดำเนินการตามวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลัก เพื่อทำลายขีดจำกัดของระบบดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าของบริษัทฯ

ฟีเจอร์การแบ่งระดับชั้นข้อมูลของ Cloud Volumes ONTAP ช่วยให้ Officeworks ใช้ทรัพยากร AWS ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วย Cloud Volumes ONTAP บริษัทฯ จึงสามารถถ่ายโอนข้อมูลที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไปยังสตอเรจ Amazon S3 ที่มีราคาถูกกว่าโดยอัตโนมัติ และถ่ายโอนข้อมูลกลับไปยัง AWS EBS ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงได้ตามความจำเป็น ผลลัพธ์คือ บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ AWS ทั้งยังปรับปรุงการดำเนินงาน ด้วยการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้งานเป็นประจำไว้บนดิสก์ประสิทธิภาพสูง ควบคู่ไปกับการใช้ระดับชั้นสตอเรจที่มีราคาถูกกว่าสำหรับข้อมูลส่วนใหญ่ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งาน

Cloud Volumes ONTAP ทำให้ Officeworks สามารถโยกย้ายเวิร์กโหลดบนระบบภายในองค์กรไปยัง AWS ได้อย่างง่ายดาย แทนที่จะต้องซื้ออุปกรณ์สตอเรจเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ทั้งยังต้องคอยบำรุงรักษาอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบัน Officeworks สามารถติดตั้งอินสแตนซ์ Cloud Volumes ONTAP อีกชุดหนึ่งสำหรับรองรับการกู้คืนระบบและการพัฒนา/ทดสอบ เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ ดังนั้นจึงถูกจัดเก็บไว้บนสตอเรจ Amazon S3 ที่มีราคาถูกกว่า เมื่อข้อมูลอยู่ในระบบคลาวด์ก็จะสามารถทำการโคลนโดยใช้ NetApp's data cloning technology และส่งไปตามที่ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานผ่านทางโปรโตคอล NFS, SMB/ CIFS และ iSCSI โดยใช้ฟีเจอร์การแชร์ไฟล์ของ Cloud Volumes ONTAP และสุดท้าย Officeworks ใช้ Cloud Volumes ONTAP ร่วมกับ NetApp Trident เพื่อสร้างสตอเรจแบบคงอยู่ (Persistent Storage) สำหรับ Kubernetes

บทสรุปข้อมูลเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล และมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ดังนั้นบริษัทที่ต้องการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมดังกล่าวจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากประสิทธิภาพและความจุในระดับชั้นต่างๆ ของคลาวด์ และวิธีที่ดีที่สุดในการทำอย่างนั้นก็คือ การใช้ฟังก์ชั่นการแบ่งระดับชั้นข้อมูลของ Cloud Volumes ONTAP จะช่วยให้สามารถย้ายข้อมูลระหว่างระดับชั้นต่างๆ โดยอัตโนมัติได้อย่างราบรื่น โดยใช้ทรัพยากรคลาวด์อย่างยืดหยุ่นและประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากเน็ตแอพได้ที่ www.netapp.com ,Cloud Volumes ONTAP, Data Tiering, Customer Case Study #DataDriven #DataFabric #Cloud

เฟสบุ๊ค: NetAppThailand

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4