ล่าสุด ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 จากผลการสำรวจประเทศที่มีการซื้อของออนไลน์มากที่สุดในโลก ซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับความร่วมมือระหว่าง Infinix และ Lazada ที่ทาง Infinix ได้เริ่มขยายช่องทางการจัดจำหน่ายจากหน้าร้านสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Infinix ได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังถือเป็นการขยับขยายธุรกิจของ Infinix บนช่องทางออนไลน์โดยการเข้าหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่มักจะซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย อ้างอิงจากผลสำรวจของ Picodi ที่ชี้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์มากที่สุด โดยทาง Infinix เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับ Lazada ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์กึ่งมีเดีย จะช่วยกระตุ้นให้การขายหน้าร้านของ Infinix คึกคักมากยิ่งขึ้น
"Infinix รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์แถวหน้าของไทยอย่าง Lazada ความร่วมมือในครั้งนี้สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้เพราะวิสัยทัศน์หลักของ Infinix และความเชี่ยวชาญในการเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนบนโลกออนไลน์ของ Infinix ในตลาดเกิดใหม่ในระดับสากล โดยเหตุผลที่เราร่วมมือกับ Lazada นั้นเป็นเพราะทั้ง Infinix และ Lazada ใส่ใจความต้องการและความชื่นชอบของลูกค้า อีกทั้ง Infinix และ Lazada ยังมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มเดียวกันนั่นก็คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ Infinix หวังว่าจากความร่วมมือในครั้งนี้ ลูกค้าในประเทศไทยของเราโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะได้ยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภคของพวกเขาให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของแต่ละพื้นที่ของ Infinix โดยการขายผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Lazada ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง Lazada และต่อ Infinix" Benjamin Jiang กรรมการผู้จัดการ Infinix Mobile
HOT8 รุ่นใหม่ล่าสุดของ Infinix มีไฮไลท์และฟีเจอร์เอาใจสายเอนเตอร์เทนเม้นท์แบบอัดแน่น ด้วยหน้าจอแบบ Waterdrop Display ขนาด 6.6 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์สมาร์ทโฟนในช่วงราคาเดียวกัน ให้ภาพคมชัดที่ความละเอียด 1600x720 พิกเซล พร้อมระบบเสียง Dirac HD Sound ที่กระหึ่มเต็มพลัง ให้คุณดูหนัง เล่นเกมได้เต็มตา เต็มอรรถรส ส่วนแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเดิมด้วยความจุ 5000 mAh ให้ความอึดชนิดที่ว่าอยู่ได้ถึง 4 วันโดยไม่ต้องชาร์จ ส่วนกล้องหลังก็ล้ำไม่แพ้กัน ด้วย Triple Rear Camera กล้องหลักความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f1.8 พร้อมกล้อง Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล AI Scene Recognition Lens ที่ช่วยปรับภาพให้สวยคมยิ่งขึ้น และแฟลช LED 4 ตัว อีกทั้งผู้ใช้งาน ยังสามารถปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือและระบบจดจำใบหน้า Face Unlock โดย HOT8 ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 9.0 Pie
แน่นอนว่าคุณสมบัติที่จัดเต็มเหล่านี้ ทำให้ Infinix กล้าการันตีว่า HOT8 พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและพร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับผู้บริโภคสายเอนเตอร์เทนเม้นท์ดิจิทัลในราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าโดยเริ่มต้นที่ 2,990 บาท สำหรับความจุตัวเครื่อง 32GB แรม 2GB และราคา 3,990 บาท สำหรับความจุตัวเครื่อง 64GB แรม 4GB เพราะ Infinix มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งมอบอุปกรณ์และสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ที่ไม่ตกเทรนด์ ให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของกัน
ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจอง HOT8 ได้ที่ Lazada ที่เดียวเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยผู้ที่สั่งจอง HOT8 ผ่าน Lazada ตั้งแต่วันที่ 2-6 ตุลาคม 2562 เท่านั้น ที่จะได้รับของขวัญสุดพิเศษอย่าง Sound Bar และ Smart Wrist Band มูลค่าสูงสุดถึง 1,190 บาท
สอบถามข้อมูลและเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/
Instagram: https://www.instagram.com/infinix_mobile_thailand/
Website: http://www.infinixmobility.com/th/
เกี่ยวกับ Infinix
Infinix ถือกำเนิดในปี 2556 และเปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2560 เน้นจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดย Infinix Mobile เป็นแบรนด์สมาร์ท
โฟนพรีเมียร์ที่ขับเคลื่อนผ่านช่องทางออนไลน์ จากบริษัท TRANSSION Holdings และด้วยคอนเซ็ปต์ "THE FUTURE IS NOW" ที่แบรนด์ Infinix ถือเป็นหลักสำคัญที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ Infinix ตั้งใจว่าจะทำให้ผู้บริโภค โดดเด่น แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร และสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองให้ทุกคนได้เห็น โดย Infinix มีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะส่งมอบเทคโนโลยีพร้อมด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยให้ผู้บริโภคทันต่อเทรนด์อยู่เสมอ
สมาร์ทโฟนของ Infinix มีทั้งหมด 5 ซีรีย์ ได้แก่ ZERO, NOTE, HOT, S, และ SMART ซึ่งแต่ละรุ่น ต่างก็มีเสน่ห์ในการทำให้ผู้ใช้งานได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไปพร้อม ๆ กับการสัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ชาญฉลาด โดยปัจจุบันนี้ Infinix ได้ขยายสาขาออกไปมากมายรวมมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก อย่างทวีปแอฟริกา, ละตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.infinixmobility.com/