ริชาร์ด เจนกินส์ ซีอีโอของ Saildrone กล่าวว่า "ดร.ลินด์สตรอม อุทิศชีวิตการทำงานทั้งหมดเพื่อพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีการสังเกตการณ์มหาสมุทร ไม่มีใครในโลกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไปมากกว่านี้ในการบุกเบิกเครือข่ายการสังเกตการณ์มหาสมุทรของ Saildrone เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ประสบการณ์และมุมมองของเขามาช่วยเติมเต็มทีมงานของเรา"
ในฐานะหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ดร.ลินด์สตรอมจะดูแลงานด้านวิทยาศาสตร์ทั้งหมดของ Saildrone ซึ่งรวมถึงการออกแบบระบบสังเกตการณ์ การเลือกอุปกรณ์ การดูแลคุณภาพของข้อมูล และการตรวจสอบเซ็นเซอร์ ทั้งนี้ Saildrone มีแผนนำโดรนผิวน้ำอีก 50 ลำมาใช้ในปี 2563 เพื่อทำความเข้าใจความท้าทายต่างๆ ที่มหาสมุทรและโลกของเราต้องเผชิญ
ดร.ลินด์สตรอม กล่าวว่า "มหาสมุทรอันกว้างใหญ่มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศ เป็นเส้นทางการค้า และเป็นแหล่งโปรตีนของประชากรโลกหลายพันล้านคน การสังเกตการณ์มหาสมุทรจากระยะไกลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก การพยากรณ์อากาศและการไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร รวมถึงการบริหารจัดการการประมง ต้องอาศัยข้อมูลคุณภาพสูงที่มีความต่อเนื่องและเชื่อถือได้"
"Saildrone เป็นโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์มหาสมุทร เพราะสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลกเพื่อรวบรวมข้อมูลคุณภาพสูงทั้งจากทะเลและอากาศ ขนส่งเชื้อเพลิง รวมถึงจัดทำแผนที่ทะเลและความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างเหนือชั้น ผมยินดีที่ได้อุทิศชีวิตการทำงานที่เหลือให้กับการเพิ่มศักยภาพการศึกษาเกี่ยวกับมหาสมุทร และการนำระบบสังเกตการณ์มหาสมุทรรูปแบบใหม่มาใช้เพื่ออนาคตในศตวรรษหน้า"
เกี่ยวกับ Saildrone
Saildrone Inc. คือผู้ให้บริการข้อมูลมหาสมุทรและบรรยากาศความละเอียดสูง บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ยานผิวน้ำไร้คนขับที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Saildrone โดยโดรนแต่ละลำสามารถอยู่บนผิวน้ำทะเลได้นานถึง 12 เดือน เพื่อส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านดาวเทียม ก่อนเดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อเข้ารับการบำรุงรักษาและปรับแต่งเซ็นเซอร์ ปัจจุบัน Saildrone มีโดรนรวม 100 ลำ สามารถปฏิบัติงานได้ตลอดปีในมหาสมุทรเกือบทุกที่ทั่วโลก รวมถึงในมหาสมุทรที่มีน้ำแข็งด้วย Saildrone เดินทางไปได้ทั่วโลกโดยใช้ต้นทุนน้อยนิดเมื่อเทียบกับการใช้เรือ นอกจากนั้นยังใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดอย่างพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ จึงปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1013734/Dr_Eric_Lindstrom.jpg