มร. นีล เอเกอร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา ของสายการบิน แควนตัส และ บริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “ผลตอบรับจากเส้นทางที่เราได้เปิดบริการไม่ว่าจะเป็นมัลดีฟ, ลาส เวกัส หรือ มาร์ราเกช ถือว่าเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแถบทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรอินเดียเพื่อสัมผัสแสงแดดและความผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศแบบเมืองก็มักจะเลือกเดินทางไปที่ นิว ยอร์ค, ลาส เวกัสและญี่ปุ่น”
10 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำสำหรับปี 2544 ได้แก่:
1. มาร์ราเกช, โมร็อกโก
มาร์ราเกช โมร็อกโกหรือที่รู้จักกันดีในนาม นครสีแดง มาร์ราเกชยังเป็นทางเชื่อมเข้าสู่เทือกเขาแอตลาสและทะเลทรายซาฮาร่าซึ่งทำให้มาร์ราเกชเป็นดินแดนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในภูมิภาค
ทั้งนี้มาร์ราเกชยังมีเทศกาลประจำปีอย่าง อัลมอนด์ บลอสซั่มซึ่งจะเกิดขึ้นในทุกๆอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ที่ทราฟาเอาท์ วัลเล่ย์ซึ่งจะถือเป็นการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติตัดกับน้ำพลุซูกหลากสีและการแสดงของนักเต้น นักดนตรีหรือแม้แต่คนเล่านิทาน
2. ซานดิเอโก้ สหรัฐอเมริกา
ซานดิเอโก้คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในแปดของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ห่างจากประเทศเม็กซิโกเพียงไม่กี่ไมล์ทำให้ซานดิเอโก้ผูกพันกับการร่องเรือและมีวัฒนธรรมที่ครึกครื้นของชาวละติน ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวกว่าพันคนเดินทางเข้ามาที่นี่เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน ซานดิเอโก้ ฟิลม์ เฟสติวัลซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกสิ้นเดือนกันยายน งานจะเป็นการฉายหนังผสมกับงานปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองเป็นระยะเวลายาวนานถึง 5 วัน
3. นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
นคร บิ๊ก แอปเปิ้ล แห่งนี้ไม่เคยตกอันดับจากการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ นิวยอร์กคือสถานที่ที่สาวกแห่งการช็อปปิ้งทั้งหลายห้ามพลาดและก็เป็นที่แน่นอนว่าวันที่ห้างร้านต่างๆนั้นยุ่งที่สุดก็คือวัน แบล็ค ฟรายเดย์ซึ่งตรงกับวันศุกร์หลังวัน แตงส์ กีฟวิ่ง ของทุกๆปี โดยร้านค้าต่างๆจะเปิดบริการตั้งแต่ตี 4 และจะนำสินค้ามาลดราคาเพื่อเป็นการแสดงออกถึงการเริ่มต้นของเทศกาลคริตส์มาส สำหรับสินค้าที่จะลดราคาลงมากว่าครึ่งนั้นก็สามารถหาได้จากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Macys และ Bloomingdales
4. เซนต์คิตส์และเนวิส แคริบเบียน
ประเทศที่มีสองเกาะเชื่อมติดกันแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนอย่างดีสำหรับครอบครัวเพราะเป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างชายหาดและภูเขาอันสวยงามเข้าไว้ด้วยกัน มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างไว้ให้คุณเลือกสรรทั้งยังมีวัฒนธรรมที่ยังคงยั่งยืนสืบต่อมา เกาะแห่งนี้ยังเป็นเกาะที่มีบรรยากาศที่ไม่ซ้ำที่ใดเพราะเกิดจากการผสมของวัฒนธรรมอังกฤษและฝรั่งเศส
5. เปอโตริโก้ สหรัฐอเมริกา
เปอโตริโก้ เป็นแหล่งกำเนิดของการแข่งขันเบสบอล เปอโตริโก้ ลีกส์ซึ่งมีการแข่งขันกันระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม นักเล่นชื่อดังจากลีกส์ใหญ่ๆของสหรัฐอเมริกาก็จะมาเข้าเล่นทีมที่นี่ในช่วงที่ไม่ได้มีการแข่งในลีกส์หลักของตน สนามกีฬา Roberto Clemente คือหนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้มีใจรักด้านกีฬาและได้มาเยือนเปอร์โตริโก้
6. หมู่เกาะมัลดีฟ
สถานที่สำหรับการฮันนีมูนอันแสนโรแมนติกในมหาสมุทรอินเดีย มัลดีฟประกอบไปด้วยเกาะที่สวยงามจำนวน 26 เกาะด้วยกัน ความงามของหมู่เกาะบวกกับความหรูหราและเป็นส่วนตัวทำให้ มัลดีฟเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครเหมือน
7. โตเกียว ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการและกรุงโตเกียวก็เป็นสถานที่ที่คอนักชิมทั้งหลายต้องไม่พลาดเพราะมีอาหารลิ้มลองจากทั่วทุกมุมโลก แม้แต่ผู้ที่เป็นเซียนนักชิมหรือมีความสันทัดในการกินก็ยังต้องยอมยกนิ้วให้กับความหลากหลายของอาหารที่กรุงโตเกียวมีให้เลือกสรร
8. ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา
ลาส เวกัสเป็นเมืองแห่งแสงสีและความดึงดูดซึ่งช่วงเวลาที่น่าไปเยือนมากที่สุดก็คือระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเพราะเป็นช่วงที่อากาศชุ่มชื่น ลาส เวกัสยังเป็นสถานที่ตั้งของลาส เวกัส สตริปซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมของคาสิโนชื่อดังและแหล่งบันเทิงที่ทำให้ราตรีไม่เคยหลับใหล
9. มอริเชียส
มอริเชียสเปรียบเสมือนสวรรค์ของเกาะเขตร้อน เริ่มต้นด้วยหาดทรายเม็ดขาวละเอียดตัดกับสีของต้นปาล์มที่ปลูกอยู่เรียงรายตามแนวชายฝั่ง เสียงคลื่นสาดกระทบกับปะการังเปรียบเสมือนเพลงบรรเลงที่ช่วยขลับกล่อม ภายในของเกาะมีทั้งภูเขาและภูเขาไฟตั้งตระหง่านบนผืนป่าเขียวชอุ่ม ตัดกับภูเขามีน้ำตกและปล่องภูเขาไฟและลำธาร
ลำธาร แบล็ค ริเวอร์ ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นอุทยานแห่งชาติจากองค์การยูเนสโก้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะโดยเป็นบ้านของเหล่าดอกไม้และนกนานาพันธ์เช่นนกพิราบสีชมพูและค้างคาว มอริเชียน
10. เซนต์ลูเซีย แคริบเบียน
ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์อันเขียวชอุ่มของภูเขา พื้นป่าหน้าร้อนและภูเขาแฝด Pitons เซนต์ลูเซียเป็นสวรรค์ของนักถ่ายรูปเนื่องจากยังมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงามและยังมีเทศกาลเพลงแจ๊สในช่วงเดือน พฤษภาคมและเทศกาล เซนต์ลูเซียส คาร์ลนิวัลในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
เซนต์ลูเซียสยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ La Soufriere ซึ่งเป็นภูเขาไปแห่งเดียวที่สามารถเข้าไปชมได้โดยการประทุครั้งล่าสุดและครั้งเดียวเกิดขึ้นเมื่อ 400,000 ปีที่ผ่านมา
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ www.ba.com
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ประชาสัมพันธ์สายการบิน British Airways:
ธัญญวรรณStar PR Co. Ltd