นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ เปิดเผยว่า สามพรานฯ มีนโยบายให้ความสำคัญกับวิถีไทย ชุมชน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และดำเนินการอย่างจริงจังมาโดยตลอด จนโครงการ “ตลาดสุขใจ” ได้รับรางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards (AREA) ในด้าน SME CSR จาก Enterprise Asia องค์กรกลางของธุรกิจชั้นนำส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งสามพราน ริเวอร์ไซด์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่สวนเกษตรอินทรีย์ของสามพรานฯ ได้รับการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล หรือ IFOAM จากสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements — IFOAM) เมื่อเร็วๆ นี้
โครงการ “ตลาดสุขใจ” ซึ่งได้รับรางวัลธุรกิจเพื่อสังคมแห่งเอเชีย (AREA) เกิดจากความร่วมมือกันของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เครือข่ายเกษตรกร นักวิชาการ และสามพราน ริเวอร์ไซด์ เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายพืชผลเกษตรปลอดภัยต่อการบริโภค ในราคาที่เป็นธรรม บนหลักการพึ่งพาและร่วมมือกัน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค พร้อมทั้งส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ใส่ใจสุขภาพและห่วงใยสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 ในวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.00-16.00 น.
สำหรับสวนเกษตรอินทรีย์ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ได้ปรับพื้นที่สวนผักผลไม้ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ประมาณ 30 ไร่ ให้เป็นสวนผักผลไม้และสมุนไพรอินทรีย์ (organic) พร้อมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวข้ามไปเรียนรู้วิถีเกษตรปลอดภัย เก็บผักมาทำอาหารในโปรแกรม Cooking Class รวมถึงจัดให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์แก่เกษตรกรที่สนใจ ภายใต้การดำเนินงานโดยยึดถือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง จนได้รับการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์ระดับสากล (IFOAM)
“ความก้าวหน้าของโครงการทั้งสองนี้ นอกจากจะเป็นกำลังใจที่ดีแก่เกษตรกรที่ร่วมโครงการแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมคุณค่าของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยทั้งในด้านการเกษตรและสุขภาพ ตลอดจนสร้างการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในการบริโภคของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในอนาคต”
นายอรุษ กล่าวต่อไปว่า ทิศทางการดำเนินงานของ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรธุรกิจท่องเที่ยวต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยระดับสากล ที่ยังประโยชน์ให้กับผู้บริโภค ชุมชน เกษตรกร กลุ่มแม่บ้าน นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และธุรกิจของสามพรานฯ ในระยะยาว โดยมีเป้าหมาย
ให้สวนธรรมชาติภายในบริเวณพื้นที่ของ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ทั้งหมดได้รับการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์สากลเต็มรูปแบบ
“จากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของตลาดสุขใจและสวนเกษตรอินทรีย์ มีส่วนร่วมฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเรียนรู้แง่มุมของวิถีเกษตรที่ผลิตพืชผลปลอดภัยต่อการบริโภค ขณะที่สามพรานฯ มีแหล่งวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ที่สำคัญยังสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรอินทรีย์จำหน่ายสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต เช่น สบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงผิว ฯลฯ” นายอรุษ กล่าวสรุป
รศ.จุฑาทิพย์ ภัทราวาท ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การรวมตัวกันเป็นกลุ่มธุรกิจเชิงคุณค่าสามพรานนั้น มีที่มาจากปัญหาเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่คนในชุมชนต้องเผชิญหน้า การแก้ปัญหาเชิงระบบด้วยการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาควิชาการ ได้นำมาสู่การกำหนดปณิธานร่วมว่า “ภาคีทุกคนต้องเข้าใจและเข้าถึงเกษตรอินทรีย์ โดยมีสวนสามพรานเป็นเสาหลัก ในการให้ความรู้และปัญญาไปสู่การกินดีอยู่ดี มีความสุขถ้วนหน้า” และใช้ “ตลาดสุขใจ” เป็นกลไกการเรียนรู้และเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค ปัจจุบันนอกจากตลาดสุขใจจะเป็นที่กล่าวขานโดยกลุ่มผู้บริโภคอาหารปลอดภัยอย่างกว้างขวางแล้ว ยังเห็นพลังของภาคีในชุมชนที่มีการร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
อาจกล่าวได้ว่า “ตลาดสุขใจ” เป็นตัวแบบของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีการนำการวิจัยมาใช้ประโยชน์ในการยกระดับขีดความสามารถของชุมชน และชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของการแบ่งปัน และสร้างสรรค์ของภาคี ที่มีกระบวนทัศน์กว้างไกลและใส่ใจชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ทางด้าน ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย รองผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า “โครงการตลาดสุขใจ” เป็นโมเดลของความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจกับชุมชน ภายใต้แนวคิดการพึ่งพาและช่วยเหลือกันตามอุดมการณ์สหกรณ์ ทั่วไปเราจะเห็นว่างานสหกรณ์มักจะเป็นการรวมกลุ่มร่วมมือกันเฉพาะภายในกลุ่มเกษตรกรหรือชุมชนด้วยกันเท่านั้น การที่สวนสามพรานได้ริเริ่มความคิดที่จะทดลองการสร้างความร่วมมือระหว่างธุรกิจโรงแรมกับกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยไปจนถึงเกษตรอินทรีย์ จึงเป็นความแปลกใหม่ที่น่าค้นคว้าและพิสูจน์ว่าผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งจากการที่สวนสามพรานได้รับรางวัล AREA ก็เป็นข้อพิสูจน์หนึ่งว่าเมื่อทำแล้ว ธุรกิจดีขึ้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ จากการสอบถามเกษตรกรและชุมชนก็สะท้อนว่า โครงการตลาดสุขใจช่วยทำให้เกษตรกรที่ตั้งใจผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์มีช่องทางตลาดที่กว้างขึ้น ได้รับผลตอบแทนดีขึ้นจากระบบจัดการของตลาดซึ่งบริหารงานโดยสมาชิกร่วมกันแบบสหกรณ์ นี่จึงเป็นการวิจัยปฏิบัติการที่ทดลองสร้างโมเดลการทำธุรกิจแนวใหม่ที่พิสูจน์ได้ถึงความสำเร็จที่น่าสนใจ