ลิ้มรสชาติ 8 แกงไทยแท้สูตรต้นตำรับ ณ ห้องอาหารสมูท เคอร์รี่

พุธ ๑๑ ธันวาคม ๒๐๑๓ ๑๘:๐๐
ห้องอาหารสมูท เคอร์รี่ นำโดย เชฟจัสวีร์ ซังเก-รา เชฟมือเอกแห่งโรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน นำเสนอ 8 เมนูจากเครื่องแกงโบราณสูตรต้นตำรับ ซึ่งในปัจจุบันนับว่าหารับประทานได้ยากขึ้นเต็มที ตลอดเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม 2557

8 เมนูเครื่องแกงโบราณที่เชฟได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศพร้อมปรุงด้วยความพิถีพิถัน ได้แก่

- แพนงปีกไก่สอดไส้กุ้ง

เครื่องแกงแพนงนับเป็นเครื่องแกงโบราณที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศอินเดียและเขมร ประกอบด้วย พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ รากผักชี เมล็ดผักชี เมล็ดยี่หร่า กระเทียม กะปิ รวมถึงหอมแดงและถั่วลิสง คำว่าแพนงนั้นมาจากคำว่า พะแนง ในภาษาเขมร ใช้อธิบายคำในภาษาไทยตั้งแต่ต้น หรือก่อนอยุธยา แปลว่า ท่านั่งขัดสมาธิ ซึ่งเป็นที่มาของเมนูแกงแพนงเพราะในสมัยโบราณจะนำไก่ทั้งตัวมามัดขัดขาและนำลงแกงในหม้อ

เมนูแพนงปีกไก่สอดไส้กุ้งนี้ เชฟจัสวีร์ได้เลาะกระดูกในปีกไก่ออกและใช้เนื้อกุ้งผสมเครื่องแกงแพนงและใบมะกรูดสอดไส้เข้าไป เมื่อรับประทานจะลิ้มรสได้ถึงความนุ่มของเนื้อไก่และกุ้งพร้อมทั้งได้กลิ่นหอมของเครื่องแกงไปพร้อมๆ กัน

- กะหรี่ไหมขวัญ

เครื่องแกงกระหรี่สีเหลืองจากภาคใต้สีสดชวนให้รับประทานหมักกับเนื้ออกไก่สไลด์ รับประทานคู่กับมันฝรั่งหวานและเต้าหู้ทอดกับเส้นหมี่

อร่อยครบรสจากตำรับอาหารพื้นเมืองของชาวภูเก็ตและชาวพื้นเมืองภาคใต้ ซึ่งเมนูนี้ค่อนข้างหารับประทานได้ยากมากในกรุงเทพฯ โดยเครื่องแกงกระหรี่ที่ใช้ในเมนูนี้นั้นเป็นเมนูพื้นเมืองของทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศตรินิแดดและประเทศฟิจิ ซึ่งเครื่องแกงจะมีรสชาติเผ็ดจากพริกสดหลากหลายชนิด อาทิ พริกเหลือง พริกขี้หนู ผสมผสานกับกลิ่นหอมของสมุนไพรต่างๆ เมนูนี้ถือเป็นเมนูที่สืบสานวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวภูเก็ต

- แกงเทโพคอหมูย่าง

ลิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานและกลิ่นหอมอโรมาจากมะกรูดที่ปรุงรสเข้ากับเครื่องแกงสีแดงสดพร้อมเนื้อคอหมูย่างและผักบุ้ง

เมนูนี้เป็นเมนูที่มีรสชาติไม่เผ็ดจนเกินไป มีที่มาจากทางภาคกลางของประเทศไทย น้ำแกงมีส่วนผสมของกะทิและเพิ่มความหอมชวนรับประทานด้วยมะกรูด แกงเทโพได้มีจากบันทึกไว้ใน “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” กาพย์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อชมฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวยของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี และเพื่อเป็นบทเห่เรือพระที่นั่งในเวลาเสด็จประพาสส่วนพระองค์ แต่ในกาพย์เห่ชุดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการปรุงแกงนั้นเป็นเนื้อปลาเทโพ ซึ่งต่อมานิยมใช้เนื้อหมูในการปรุงน้ำแกง แต่ก็ยังเรียกว่าแกงเทโพสืบทอดกันมา

- แกงป่าเนื้อออสเตรเลียนวากิว

เผ็ดร้อนแบบพื้นบ้านและผักนานาชนิดพร้อมนุ่มลิ้นกับเนื้อออสเตรเลียนวากิว

สัมผัสรสชาติเผ็ดร้อนตามสไตล์อาหารไทยพื้นบ้านที่นิยมกันทั่วทุกภาคของประเทศไทย แกงป่าผสมผสานไปด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศนานาชนิดที่พบได้ทั่วไป มีความหอมจากมะกรูด ตะใคร้ พริกไทยสด ข่า กระเทียม กระชาย พริกไทยอ่อน พริกกะเหรี่ยง มะเขือพวง มะเขือเปาะ ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อนและพริก เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานเมนูเพื่อสุขภาพ

- แกงคั่วสับปะรดออสเตรเลียนมัสเซิล

เปรี้ยวหวาน ในสไตล์พื้นเมืองภาคใต้กับสับปะรดและหอยแมลงภู่ออสเตรเลีย

แกงคั่วมีต้นกำเนิดมาจากทางภาคใต้ของประเทศไทย โดยเอกลักษณ์ของแกงคั่วนั้นจะอยู่ที่ “เนื้อปลาย่าง”ที่นำมาโคลกกับเครื่องแกง ซึ่งกรรมวิธีในการทำแกงคั่วนั้นค่อนข้างซับซ้อนและใช้เวลานานเพื่อให้ได้แกงที่มีรสชาติกลมกล่อม เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การเตรียมเครื่องแกงโดยตำวัตถุดิบแยกทีละอย่าง ดีกว่าการตำรวมกันเหมือนแกงอื่นๆ คือ จะเริ่มตำพริกสดให้ละเอียดก่อน จากนั้นจึงตำข่า ตะใคร้ กระเทียม รากผักชี พริกไทย ลูกผักชี ยี่หร่า กะปิ และจากนั้นจึงใส่เนื้อปลาย่างตามลงไป

- ฉู่ฉี่ปลากะพงทอด

เมนูนี้เป็นเมนูที่มีน้ำแกงขลุกขลิก ที่มีความเป็นมาจากภาคกลางของประเทศไทย ในอดีตนิยมรับประทานกันเฉพาะในรั้วในวัง เหตุที่เรียกว่า “ฉู่ฉี่” นั้นมาจากเสียงของเครื่องแกงที่เดือดบนกระทะ เคล็ดลับความอร่อยของ เชฟจัสวีร์อยู่ที่การประยุกต์มาใช้เนื้อปลากะพงทอด เพื่อให้มีความกรุบกรอบมากขึ้น เมนูนี้มักนิยมรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อให้ได้ความกลมกล่อมนุ่มลิ้นและเพื่อให้รสชาติของน้ำแกงจะไม่เข้มข้นจนเกินไป

- แกงกะทิต้มยำกุ้ง

พบประสบการณ์ความเผ็ดร้อนและรสชาติเปรี้ยวจัดจ้านพร้อมความกลมกล่อมของน้ำกะทิ และเพิ่มความหอมด้วยตะไคร้และกุ้งสดตัวโต

เมนูนี้มีที่มาจากทางภาคใต้ ที่มีทั้งรสชาติความเผ็ดร้อนและเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดเหมือนต้มยำกุ้งทั่วไป แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการเพิ่มน้ำกะทิในน้ำแกง ผสมผสานด้วยพริกสดและสมุนไพรไทยต่างๆ แกงกะทิต้มยำกุ้งคล้ายๆกับต้มข่าแต่จะแตกต่างกันตรงที่ ต้มข่านั้นจะใส่ทั้งหัวกะทิและหางกะทิ ซึ่งในเมนูแกงกะทิต้มยำกุ้งจะเลือกใช้แต่น้ำกะทิที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป

- แกงรัญจวน

ลิ้มรสพริกแกงที่มีความเผ็ดร้อนและเปรี้ยว เค็ม หวานอย่างลงตัว พร้อมสัมผัสความนุ่มละมุนของเนื้อน่องวัวชั้นดี

แกงรัญจวน ที่ได้มีการบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยผู้ริเริ่มทำเมนูนี้คือ มล.เนื่อง นิลรัตน์ ที่ได้ทำแกงรัญจวนนี้ภายในวังของท่านด้วยความที่มีกะปิเหลืออยู่ครกใหญ่จึงมาทำเป็นน้ำแกงและสมุนไพรนานาชนิดได้แกงที่มีรสชาติพิเศษน่าหลงใหล จึงได้ตั้งชื่อว่าแกงรัญจวน คือมีกลิ่นหอมรัญจวนใจน่ารับประทาน ปัจจุบันเมนูนี้หารับประทานได้ยากมาก จะมีเพียงในร้านอาหารต้นตำรับดั้งเดิมเท่านั้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร +66 2650 8800 อีเมล์ [email protected]หรือเว็บไซต์ lemeridien.com/plazaatheneebangkok และ plazaatheneebangkok.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4