“ในฐานะผู้ผลิตเครื่องบิน มันเป็นหน้าที่ของเราในการคาดการณ์ความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกัน ก็ทำการส่งมอบเครื่องบินและบริหารจัดการรายได้ให้กับพนักงาน หุ้นส่วน ลูกค้า และนักลงทุนของเรา” มร.ดิดิเย่ร์ เอฟราร์ด รองกรรมการผู้จัดการโครงการ กล่าว “จากความสำเร็จของเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 ทั้งตัวเลือกเครื่องยนต์ปัจจุบัน (Current Engine Option: CEO) และตัวเลือกเครื่องยนต์ใหม่ (New Engine Option: NEO) เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับห่วงโซ่อุปทานของเรา ประเมินความสามารถในการผลิต และทำการตัดสินใจในการผลิตด้วยอัตราที่เหมาะสมที่สุด สำหรับเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้าง เรากำลังจะทำการปรับเปลี่ยนอัตราการผลิตเครื่องบินแอร์บัส เอ330 เพื่อการเตรียมตัวสู่การปรับเปลี่ยนเป็นตัวเลือกเครื่องยนต์ใหม่ (New Engine Option: NEO) โดยในขณะเดียวกัน เครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี ก็กำลังเป็นเครื่องบินที่มีความต้องการอย่างสูงเช่นกัน”
เครื่องบินทางเดินเดี่ยวของแอร์บัสได้ถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 11,500 ลำ โดยมีเครื่องบินประเภทดังกล่าวได้ถูกส่งมอบให้กับผู้ปฏิบัติการจำนวน 317 รายแล้ว เป็นจำนวนกว่า 6,400 ลำ ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ319 เครื่องบินแอร์บัส เอ320 และเครื่องบินแอร์บัส เอ321 เป็นตระกูลเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ทันสมัยที่สุดและขายดีที่สุดในโลก
บริษัทแอร์บัสมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างที่ครอบคลุมและทันสมัยที่สุด ซึ่งรวมถึงเครื่องบินที่มีความสามารถรอบด้านอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ330 เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี และเครื่องบินสองชั้นอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ380 โดยเมื่อรวมกันแล้ว เครื่องบินดังกล่าวจะสามารถครอบคลุมความต้องการที่มีเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างของสายการบินทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการปฏิบัติการบินระยะพิสัยไกล พิสัยกลาง และพิสัยระดับภูมิภาค โดยมีที่นั่งผู้โดยสารตั้งแต่จำนวน 250 ไปจนถึงกว่า 500 ที่นั่ง รวมทั้งยังแบ่งปันความคล้ายคลึงทางด้านการปฏิบัติการบินในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้