นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเติบโตของธุรกิจขนส่งทางทะเลฝั่งอ่าวไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเติบโตของเกาะสมุยและเกาะพะงัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งทางเรือเฟอร์รี่ฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากการเปิดตลาดของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจะทำให้มีการเดินทางและการทำธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายการให้บริการให้ครบวงจรเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว
ปัจจุบัน บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ให้บริการหลักในการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยานพาหนะ รถบรรทุกและอุปกรณ์เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รวมทั้งการขนส่งเพื่อธุรกิจลอจิสติกส์ขนาดใหญ่ ในเส้นทางอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะสมุย และอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีจำนวนเรือเฟอร์รี่มากที่สุดถึง 12 ลำ และให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่มากกว่า 40 เที่ยวต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการของการขนส่งและผู้โดยสาร โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดยาวหรือเวลาที่มีการสัญจรหนาแน่น
" ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เราได้พัฒนาธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เรานำพาความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มาสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่าเรือและกองเรือเฟอร์รี่ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญบนเกาะสมุยและเกาะพะงัน พาผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวข้ามท้องทะเลสู่หมู่เกาะต่างๆได้โดยสวัสดิภาพ ขนส่งสินค้า พลังงาน รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อให้
คนที่อยู่ในเกาะสมุยและเกาะพะงันมีคุณภาพชีวิตที่ดี สะดวกสบายขึ้น และเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจของผู้คนในพื้นที่ และเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งทางทะเลที่เปิดกว้างมากขึ้นโดยเฉพาะการขนส่งนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน เราจึงอยู่ระหว่างปรับปรุงท่าเรือดอนสัก ปรับปรุงอาคารสำนักงานท่าเรือสมุย และเกาะพะงัน และมีแผนซื้อเรือเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดขนส่งและท่องเที่ยวที่จะขยายตัวอีกมากในอนาคต " นายอภิชาติกล่าว
จากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ จึงมีนโยบายที่จะนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อสร้างโอกาสในการระดมทุน สร้างระบบการให้บริการการเดินเรือ และการจัดทำข้อมูลทางการเงินให้ทันสมัยได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจนี้ต่อไป โดยได้แต่งตั้งบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนชำระแล้ว 132 ล้านบาท โดยมีหุ้นจำนวน 38 ล้านหุ้น สำหรับเสนอขายประชาชน สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 665 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 85 ล้านบาท และในช่วงมาสแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 156 ล้านบาท คิดเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 29 ล้านบาท
จากศักยภาพประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบุคลากรมืออาชีพในธุรกิจเดินเรือเฟอร์รี่ บริษัทมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำธุรกิจเดินเรือเฟอร์รี่ของไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการเดินเรือเฟอร์รี่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอาเซียนได้ในอนาคตอย่างแน่นอน