นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ภาครัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ในส่วนของการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้สูญเสียชีวิต บัดนี้ได้มีการจ่ายเงินเยียวยาจากกองทุนฯ ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 12 ราย เป็นเงิน 3,600,000 บาท (สามล้านหกแสนบาทถ้วน)
สำหรับมาตรการความปลอดภัยขณะนี้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจตราความปลอดภัยทั้งในและนอกเครื่องแบบในทุกจุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศที่วางแผนเดินทางมาประเทศไทย ไม่ว่าเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการติดต่อธุรกิจ เพื่อการศึกษา ประชุม สัมมนา ดูงาน ตลอดจนเพื่อร่วมงานแสดงสินค้า หรือภารกิจตามความประสงค์ของทุกท่าน
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ภาครัฐจะดำเนินการเร่งด่วนนับจากนี้คือ ในวันที่ 2-3 กันยายน จะมีโปรแกรมเดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เพื่อพบผู้ประกอบการกว่า 300 บริษัทและสื่อมวลชนอีก 30 ราย เปิดตลาดใหม่และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว
ด้าน นายคาร์ลอส โวกเลอร์ รองเลขาธิการองค์การท่องเที่ยวโลก (UNWTO) เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวไทยจะกลับมาเป็นปกติในช่วงไฮซีซั่นอย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสวยงามติดอันดับโลก สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว
นายเดวิด สโคว์ซิล ประธานสมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council : WTTC) กล่าวในวันนี้ว่า ในสายตาของชาวต่างชาติมีความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงประทับใจในความร่วมมือให้การช่วยเหลือทั้งของภาครัฐและเอกชน และยังคงมองเห็นประเทศไทยเป็นดินแดนที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวอีกเช่นเดิม
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากสถานการณ์ในรอบสัปดาห์พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวร้อยละ 7 จากแนวโน้มปกติ และคาดว่าจะผันผวนต่อเนื่องอีก 1 – 2 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมวันที่ 1-23 สิงหาคม 2558 มีจำนวน 2,100,036 คน ขยายตัวร้อยละ 31.68 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่เหตุการณ์ของแยกราชประสงค์คงปฏิเสธไม่ได้กับผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งในท่ามกลางบรรยากาศความไม่สงบที่หลายฝ่ายต้องเผชิญก็มีหลายประเทศที่มีเจตนาแสดงความเข้าใจและเห็นใจต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องผนึกกำลังกันหามาตรการควบคุม หรือลดความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ขึ้นมาอีก เช่นการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น การเพิ่มกล้อง CCTV ในมุมอับ หรือเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบในการตรวจตราระมัดระวังเหตุร้ายต่างๆ และประการสำคัญคนไทยทุกคนต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ พบเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยทันที