"เตาเผาแม่น้ำน้อยที่โคกหม้อ" เป็นหลักฐานที่สามารถบ่งบอกได้ว่าในอดีตบ้านโคกหม้อเคยเป็นแหล่งชุมชนเก่าที่มีอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผากันอย่างแพร่หลายสืบทอดกันมาจวบจนถึงปัจจุบัน โดยแหล่งที่พบการเตาเผาจำนวนมากที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดอยู่ที่บริเวณวัดพระปรางค์ ซึ่งเป็นศาสนสถานเก่าแก่ที่คาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น
คุณกิตติ เฮ็งเจริญสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกหม้อ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเตาเผาโบราณแม่น้ำน้อยว่า "...เตาเผาโบราณแม่น้ำน้อยเป็นเตาเผาขนาดใหญ่ มีการระบายความร้อนแบบเฉียงขึ้น โครงสร้างเตาก่อด้วยอิฐ ส่วนตัวเตาบางส่วนมีลักษณะคล้ายเรือประทุน จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "เตาประทุน" โครงสร้างของเตาสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนปล่องไฟ ส่วนของห้องวางเครื่องปั้นดินเผา และส่วนของห้องเชื้อเพลิง..."
คุณกิตติ กล่าวต่ออีกว่า "...จุดเด่นของเตาเผาโบราณแม่น้ำที่บ้านโคกหม้อนับว่าเป็นเตาเผาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด คาดว่าเคยใช้ผลิตภาชนะหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นไห อ่าง ครก กระปุก กระเบื้องปูพื้น หรือแม้แต่ช่อฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยที่มีกว่าร้อยจุดและแวะชมผลิตภัณฑ์จากเตาเผาโบราณได้ที่พิพิธภัณฑ์เตาเผาแม่น้ำน้อย วัดพระปรางค์..."
การขึ้นทะเบียนเตาเผาโบราณแม่น้ำน้อยเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรในปี พ.ศ. 2509 ทำให้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโคกหม้อมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ ซึ่งชาวบ้านบ้านโคกหม้อมีฝีมือในการทำเครื่องปั้นดินเผาได้หลากหลายรูปแบบ แต่เครื่องปั้นดินเผาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและขึ้นชื่อที่สุดของโคกหม้อ คือ "ไหสี่หุ" ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับไหสี่หูในสมัยโบราณทุกประการ
เตาเผาโบราณแม่น้ำน้อยถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นศูนย์ศึกษาวิชาการเซรามิคที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกด้วย โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.00 น. สามารถเดินทางจากตัวเมืองสิงห์บุรีไปตามถนนหลวงสายสิงห์บุรี - บางระจัน - สรรคบุรี หมายเลข 3251 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร หรือติดต่อได้ที่หมายเลข 036-544557