ในแง่ของอารยธรรมนั้น อาหารหนึ่งจานแทนคำพูดหลายพันคำ เมืองเฉิงตูซึ่งเป็นบ้านของประชากร 16 ล้านคน และเป็นเมืองเอกทางภาคตะวันตกของจีน กำลังจัดแคมเปญ "สุดยอดอาหาร เฟ้นหาความหอม แสดงความงามของตนเอง และชื่นชมความงามซึ่งกันและกัน" โดยมีการจัดกิจกรรมมากถึง 45 รายการ เช่น การประชุมสุดยอดด้านการทำอาหาร การทัวร์สัมผัสศิลปะการใช้ชีวิตในหัวข้อ "การเดินทางเพื่อเฟ้นหาความหอม" การแลกเปลี่ยนระหว่างเชฟชื่อดังในจีนและต่างประเทศ นิทรรศการพิเศษว่าด้วยวัฒนธรรมการทำอาหาร รวมถึงวันประจำชาติสำหรับ 8 ประเทศและดินแดนในเอเชีย งานนี้เป็นเทศกาลอาหารเอเชียสุดยิ่งใหญ่สำหรับทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยว โดยมีการใช้อาหารเป็นสื่อกลางในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการชื่นชมซึ่งกันและกันระหว่างนานาอารยประเทศในเอเชีย
ในช่วงเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม เมืองเฉิงตูได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ "Tianfu Home Banquet" เพื่อต้อนรับมิตรสหายจากต่างประเทศด้วยอาหารเสฉวนมื้อแรก โดยแขกของงานได้ลิ้มลองอาหารจานเด็ด 16 อย่างที่คนในท้องถิ่นกินที่บ้านเป็นประจำ เช่น เนื้อวัวและเครื่องในปรุงรสเผ็ด หมูสองไฟ เต้าหู้หม่าโผ รวมถึงเป็ดอบใบชาและการบูร ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้ได้รับการโหวตจากคนในท้องถิ่น
เมืองเฉิงตูและอาหารรสเลิศมีความผูกพันกันมานานจนแยกไม่ออก ดังคำกล่าวที่ว่า สุดยอดอาหารต้องจีน สุดยอดรสชาติต้องเฉิงตู นอกจากนี้ เฉิงตูยังเป็นเมืองแรกในเอเชียที่ได้รับการประกาศให้เป็น "เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร" ของยูเนสโก เมืองเฉิงตูมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,300 ปี และมีมรดกทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก ทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "ดินแดนอุดมสมบูรณ์" มาตั้งแต่โบราณกาล เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและผลผลิตสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอันยอดเยี่ยมได้กลายเป็นจุดแข็งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาวัฒนธรรมอาหารของเมืองเฉิงตู
ในช่วงเย็นวันที่ 15 พฤษภาคม งานออกร้านหม้อไฟ "Creative Hot Pot Bazaar" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเทศกาลอาหารครั้งนี้ ได้เปิดฉากขึ้นที่ Water Street ในเมืองเฉิงตู โดยร้านหม้อไฟชื่อดังในเมืองต่างมาออกร้านกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การแข่งขันกินพริกเฉิงตู "Chengdu Chili Pepper Competition" เพื่อให้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารรสจัดของเสฉวน
คุณเซิน หงกวง ประธานสมาคมหม้อไฟเสฉวน กล่าวว่า "หม้อไฟเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของวัฒนธรรมเฉิงตู และไม่สามารถแยกออกจากจิตวิญญาณของเมืองแห่งนี้"
นอกเหนือจากหม้อไฟอันโด่งดังแล้ว เมืองเฉิงตูยังเป็นต้นตำรับอาหารเสฉวน ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดอาหารประจำชาติของจีน แต่เมืองเฉิงตูไม่ได้มีดีแค่นี้ ด้วยนิสัยของคนในท้องถิ่นที่รักการใช้ชีวิตและการกินอาหาร รวมถึงสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปิดกว้าง เมืองเฉิงตูจึงมีร้านอาหารทุกประเภทมากกว่า 100,000 ร้าน รวมถึงร้านอาหารที่มาจากทั่วทุกมุมโลก เฉิงตูจึงเป็นเมืองที่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งจากในประเทศและต่างประเทศมากที่สุดในภาคตะวันตกของจีน
คุณแอรอน ซานเชซ จากลอสแองเจลิส เดินทางมาที่เมืองเฉิงตูเพื่อก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ และไม่นานเขาก็ตกหลุมรักอาหารที่มีอยู่มากมายทั่วเมือง ทุกวันนี้ เขารู้จักอาหารในเฉิงตูเป็นอย่างดี เขากล่าวว่า "ไก่ต้มโบโบ อาหารปิ้งย่างเสียบไม้ หม้อไฟ เต้าหู้หม่าโผ หมูเส้นผัดเปรี้ยวหวาน ทุกครั้งที่ผมกลับแอลเอหรือเดินทางไปที่อื่น ผมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอาหารแสนวิเศษที่เฉิงตู"
ผู้สนับสนุนการจัดงานเปิดเผยว่า ร้านอาหารมากกว่า 1,200 ร้าน และ 11 ย่านธุรกิจทั่วเมือง ต่างตบเท้าเข้าร่วมเทศกาลอาหารครั้งนี้ และงานนี้จะจัดไปจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการพิเศษ "Food Above All: Cultural Journey on the Dining Table" การประชุม "Black Pearl Head Chefs' Club Initiation Ceremony and Forum" วันแห่งการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอาหาร "Tastes of Asia" และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่สร้างความคึกคักไปทั่วเมือง และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับเสน่ห์ทางวัฒนธรรมเบื้องหลังอาหารจานเด็ด
นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการประกาศจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือวัฒนธรรมการทำอาหารเอเชีย "Asian Culinary Culture Alliance" โดยองค์กรต่างๆ เช่น "Belt and Road" Southeast Asia Non-governmental Organization Alliance, Slow Food Great China, Numbing and Spicy Alliance of Japan, Institute of Cultural Industry of Peking University และ Korean Dining Culture International Exchange Association โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดเทคนิคการทำอาหาร พัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการทำอาหาร ส่งเสริมวัฒนธรรมการทำอาหารของเอเชีย ตลอดจนเรียนรู้และชื่นชมซึ่งกันและกันระหว่างนานาอารยประเทศในเอเชีย
ที่มา: คณะกรรมการจัดเทศกาลอาหาร Chengdu Panda Asian Food Festival (CPAFF)
AsiaNet 78825