ด้านการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจในปี 2562 เมืองเซนไดได้มีข้อตกลงร่วมกับบริษัท Toyota Tsusho (Thailand) Co., Ltd., Toyo Business Group, The 77 Bank และกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยพยายามเพิ่มการส่งออกเนื้อวัวเซนได สุราท้องถิ่นของเซนได และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของซันริคุ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือและดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุที่ได้พัฒนาร่วมกับประเทศฟินแลนด์จากยุโรปเหนือ มายังประเทศไทยและอาเซียน อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้เซนไดกับภูมิภาคโทโฮคุและประเทศไทยกับภูมิภาคอาเซียนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นแล้ว ตนยังเชื่อว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
ทางด้าน นายสมบัษร ถิระสาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตือ จำกัด ทูตประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย-เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เมืองเซนไดมีธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงาม เพลิดเพลินกับเสน่ห์ของออนเซ็น และยังได้สัมผัสกับเมืองอู่ข้าวของภูมิภาคโทโฮคุ ที่เป็นต้นกำเนิดของลิ้นวัวย่าง สุนดะโมจิ และซาซาคามาโบะโกะ อันเลิศรส ข้าวในพื้นที่โทโฮคุได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นสาเกที่ผลิตในภูมิภาคนี้จึงเป็นสาเกที่เลิศรส เมืองเซนไดยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาของนักท่องเที่ยว และเป็นด่านแรกในการมาเยือนภูมิภาคโทโฮคุ ตนจะนำเรื่องราวเหล่านี้นำเสนอให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เมืองเซนไดเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของการไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้แก่เมืองเซนได และตนต้องขอขอบคุณเมืองเซนได, บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนจนทำให้การเดินทางและการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี
