นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งถือหุ้น 100% ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด (SUPERE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนในบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) จำนวนทั้งหมด 4 โครงการ ขนาดรวม 17.40 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิทธิตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) โดยบริษัทย่อยของบริษัทฯได้เข้าทำรายการใน 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ตั้งแซเยี้ยงกรีนพาวเวอร์ วัน จำกัด (TSG1) บริษัท เอส ที เอฟ อี โซล่า จำกัด (STFES) และบริษัท อพอลโล่ โซล่าร์ จำกัด (APL) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะขยายงานอย่างต่อเนื่องทั้งจากการเติบโตจากภายในและจากการซื้อกิจการควบคู่กันไป ในธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์
โดยการเข้าทำรายการทั้ง 3 รายการนั้น รายการแรก เป็นการเข้าลงทุนใน TSG1 นั้น บริษัทฯจะเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. จำนวน 1 โครงการขนาด 4.0 เมกะวัตต์ จาก TSG โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวม ไม่เกิน 276 ล้านบาท ภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน TSG1 ในสัดส่วน 100%
สำหรับรายการที่ 2 เป็นการเข้าลงทุนใน STFES โดยบริษัทจะเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค จำนวน 2 โครงการขนาดรวม 8.0 เมกะวัตต์ จาก STFE ซึ่งมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวม ไม่เกิน 536 ล้านบาท ภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน STFES ในสัดส่วน 100%
ส่วนรายการที่ 3 เป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของAPL จำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคา 170 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 42,500,000 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนของ APL โดย APL เป็นเจ้าของกรรมสิทธิทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 2 โครงการ ขนาดรวม 5.40 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิทธิตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวมไม่เกิน 335 ล้านบาท
โดยทั้ง 4 โครงการ มีสัญญาซื้อขายไฟกับ กฟภ. เป็นเวลา 25 ปี กำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือนธ.ค.2558
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทยังยืนยันที่จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามเป้า 500 เมกะวัตต์ ซึ่งนับจากเดือนสิงหาคมเป็นไปบริษัทจะเริ่มทยอย COD เข้ามาอย่างต่อเนื่อง