ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL)เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปีนี้ของบริษัทฯ เชื่อว่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากปีที่ผ่านมา ทั้งการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิ และรายได้รวม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% จากปีที่ผ่าน ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟรวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้านอกจากนี้ยังมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาเซลล์และโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวมถึงการให้บริการด้านบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ตลอดจนผลิตภัณฑ์ LED
ทั้งนี้บริษัทยังคงเข้าร่วมประมูลงานด้านต่างๆของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)และการไฟฟ้าฝ่าย ผลิต(กฟผ.) ตลอดจนงานจากภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นประมูลไปแล้วมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งประมาณ 30%
เขากล่าวต่อถึง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ได้รับใบอนุญาตครบทุกประเภทอีกจำนวน 110เมกะวัตต์ในนาม KWE และ GNP ว่า ขณะนี้บริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจัดหากังหันลมเพื่อผลิต ไฟฟ้าและได้รับการสนับสนุนสินเชื่อโครงการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อ จำหน่าย เชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นจำนวน 2 โครงการรวม 65 เมกะวัตต์ บริษัทฯ มีกำหนดลงนามสัญญาด้านสินเชื่อโครงการกับธนาคารที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2559 และจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุน จึงได้กำหนดเป้าหมายการจัดหาสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า PPA ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้วรวม 65 เมกะวัตต์ ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนเมกะวัตต์ที่มีในปัจจุบันจำนวน 338 เมกะวัตต์ และที่คาดว่าจะมีเพิ่มเติมเข้ามาจากโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ ส่งผลทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 600 เมกกะวัตต์ภายในปี 2560
"พลังงานทดแทนยังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อเข้าไปรับงานจากภาคส่วนต่างๆ ในการต่อยอดธุรกิจ ดังนั้นเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจของ GUNKUL ปีนี้และในอนาคตน่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิ รวมถึงรายได้รวม "ดร.สมบูรณ์กล่าว ในที่สุด