นายรุจ เหราบัตย์ (คนกลาง) รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ตามที่การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ได้จัดทำ "โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร" เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงานร่วมกัน โดยมอบหมายให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นผู้ดำเนินการจัดการประกวดอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building 2017 โดยในปีนี้ เป็นโครงการปีที่ 5
การไฟฟ้านครหลวง ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความรู้ด้านการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนจึงได้จัดสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้กับผู้แทนอาคาร บุคลากร เจ้าหน้าที่ ของอาคารที่เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารของการไฟฟ้านครหลวงในปีที่ 1 ถึงปีที่ 5 ซึ่งในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณเกชา ธีระโกเมน ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านระบบปรับอากาศ และเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของโครงการ ร่วมเป็นวิทยากรในการบรรยายเรื่อง "เทคโนโลยีระบบปรับอากาศในยุค 4.0"
การดำเนินโครงการในปีที่ 5 เป็นจัดการประกวดในกลุ่มอาคารโรงแรม โรงพยาบาล สำนักงาน และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการแข่งขันในระดับที่ 2 มีอาคารเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 19 แห่ง ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการต่อเนื่องรวม 5 ปี มีอาคารที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพ MEA Index และได้รับตราสัญลักษณ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน" จำนวน 171 แห่ง โดยมีผู้แทนอาคารตลอดจนผู้สนใจจากหน่วยงานเครือข่ายที่ได้ร่วมโครงการมาร่วมงานสัมมนาเพื่อนำความรู้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมในการปรับปรุงสิทธิการใช้พลังงานในอาคารและเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการพลังงานของอาคารต่อไปในอนาคต
สำหรับผลสำเร็จการดำเนินโครงการที่ผ่านมา โครงการฯ นี้ ได้รับความสนใจจากอาคารสมัครเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 247 แห่ง จาก 8ประเภทอาคาร ได้แก่ อาคารโรงพยาบาล, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, โรงแรม, สำนักงาน, มหาวิทยาลัย, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนและร้านสะดวกซื้อ โดยรูปแบบการประกวด MEA Energy Saving Building แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ คัดเลือกอาคารที่ผ่านเกณฑ์เพื่อรับตราสัญลักษณ์ฯ ระดับที่ 1 "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน"และแข่งขันต่อเพื่อรับตราสัญลักษณ์ ระดับที่ 2 "กฟน.อาคารประหยัดพลังงานดีเด่น" ซึ่งนอกจากอาคารจะได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจแล้วเมื่อพิจารณาผลประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการดำเนินโครงการรวม 4 ปี มีผลประหยัดพลังงานได้มากกว่า 20.5 ล้านหน่วย หากคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ช่วยชาติประหยัดได้ถึง 83.86 ล้านบาท หรือเทียบเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงได้เท่ากับ 12,597 ตันคาร์บอน นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับ กฟน. ในฐานะเจ้าของผู้ดำเนินโครงการและผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยสามารถติดตามผลการแข่งขันอาคารปีที่5 ได้ที่ www.meaenergysavingbuilding.net หรือwww.facebook/meaaward