โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ Passivated Emitter and Rear Cell หรือ PERC ของ Jinergy ยังคงมีประสิทธิภาพและคุณภาพในระดับสูง เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยี ALD ที่ล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วยระบบการผลิตอัจฉริยะและระบบควบคุมกระบวนการเชิงสถิติ (SPC) แบบออนไลน์ ปัจจุบัน การผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ PERC ขนาด 365 วัตต์ แบบ 72 เซลล์ ของ Jinergy คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% โดยมีค่าการเสื่อมสภาพแบบ LID ในปีแรกต่ำกว่า 1.5% และอัตราการผลิตจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับสาธารณูปโภคแห่งแรกในเมืองวายยะล่า รัฐเซาท์ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ใช้โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ PERC ของ Jinergy และคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ราว 10 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี
ด้วยอัตราการแปลงพลังงานโดยเฉลี่ยสูงถึง 21.8% และกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 7% ต่อตารางเมตร โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ PERC ของ Jinergy จึงช่วยลดต้นทุนด้านระบบต่อวัตต์ พร้อมสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ ขณะเดียวกัน ดร.หยาง กล่าวว่า ในขณะที่การปรับโครงสร้างด้านพลังงานและการลด FiT กำลังมาแรง โมดูล HJT คือโซลูชันในฝันที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประเมินการลงทุนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
Jinergy เป็นผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์รายแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ที่สามารถผลิตโมดูล HJT ในปริมาณมาก ปัจจุบัน ประสิทธิภาพการผลิตโมดูล HJT ปริมาณมากเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 23.27% และคาดว่าจะแตะ 24% ภายในสิ้นปี 2561 ด้วยการออกแบบที่สามารถใช้ได้ทั้งสองหน้า โมดูล HJT ของ Jinergy จึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น 10%-30% ตามลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน เช่น บนทุ่งหญ้า พื้นคอนกรีต ลานหิมะ และเสื้อสะท้อนแสง กำลังการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของโมดูล HJT ของ Jinergy สูงกว่าแบบทั่วไปถึง 44% นอกจากนี้ Jinergy ยังเป็นผู้ประกอบการด้านพลังงานแสงอาทิตย์รายแรกที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานใหม่ของคณะกรรมาธิการเทคนิคทางไฟฟ้าระหว่างประเทศ (IEC) ซึ่งมีการเพิ่มข้อกำหนดในการออกแบบและผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งนี้ กำลังการผลิตโมดูล HJT ของ Jinergy จะขยายไปเป็นระดับกิกะวัตต์ ขณะที่ต้นทุน LCOE จะปรับตัวลดลง
โลโก้ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180528/2144424-1LOGO