นักลงทุนข้ามชาติ ห่วงรัฐไม่เร่งต่อสัญญา SPPกระทบอุตสาหกรรม ฉุด EEC สะดุด

พฤหัส ๑๖ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๑๑
หลังผลประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 9 สิงหาคม 2561 ระบุว่า กบง.ยังไม่ได้ข้อสรุปในการพิจารณาแนวทางรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ประเภทพลังงานร้อนร่วม (Cogeneration) ที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2560- 2568 เนื่องจากต้องรอหารือและปรับปรุงรายละเอียดจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ทำให้ต้องรอนำเสนอที่ประชุม กพช.เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

ทำให้เรื่องดังกล่าวซึ่งยืดเยื้อมาสองปีกว่าแล้ว ต้องเลื่อนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนข้ามชาติที่เป็นลูกค้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) จำนวน 25 ราย ที่จะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาเป็นชุดแรกเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ภาครัฐเร่งผลักดันและเชิญชวนต่างชาติเข้ามาลงทุนแทบทั้งสิ้น

และวันนี้กลุ่มนักลงทุนของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เริ่มมีเสียงสะท้อนที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางพลังงานด้านไฟฟ้าและไอน้ำ ว่าจะมีเพียงพอรองรับการลงทุนพื้นที่ EEC ในอนาคตหรือไม่

นายโชติ ชูสุวรรณ กรรมการเลขาธิการ สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ระบุว่า ความล่าช้าดังกล่าวส่งผลให้ที่ผ่านมา นักลงทุนไทยแตะต่างชาติ อาทิ มิชลิน มิตซูบิชิมอเตอร์ส ซูมิโตโมรับเบอร์ รวมถึงสถานทูตญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส ทวงถามความชัดเจนในเรื่องนี้มาตลอด เพราะต่างกังวลว่าโรงไฟฟ้า SPP จะไม่สามารถปรับปรุงระบบผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบได้ทันตามกำหนด เพราะต้องใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้า 2-3 ปี

กรณีนี้จะกระทบกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเขตพื้นที ECC ที่ต้องการความเสถียรของกระแสไฟฟ้าสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะทำให้เสี่ยงต่อการขาดแคลนไฟฟ้า เผชิญสภาวะไฟฟ้าตกดับในกระบวนการผลิต ที่แต่ละครั้งสร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีออโตเมชั่น

ดังที่ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ สะท้อนมุมมองผ่านสมาคมฯ ว่า "สิ่งที่ต้องการเห็นคือ ระบบสาธารณูปโภคที่ครบวงจร โดยเฉพาะด้านไฟฟ้าและไอน้ำ ที่บริษัทซื้อโดยตรงจาก SPP เพื่อลดความเสี่ยง เพราะหากมีไฟฟ้าดับเพียง 0.06 วินาทีขึ้นไป จะสร้างความเสียหายต่อยาง 1,000 เส้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตทำให้ต้องหันมาใช้ SPP แทน

นายโชติ ชูสุวรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อย้อนดูความจำเป็นแรกเริ่มเดิมทีของการก่อตั้งโรงไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) จะพลว่า SPP เป็นโมเดลที่มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อเข้ามามีบทบาทเป็นกลไกตั้งต้น ในการส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ทั้งช่วยส่งประโยชน์ในการลดเงินลงทุนด้านระบบสายส่งให้กับภาครัฐ และ กฟผ.ด้วยข้อดีคือ เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เขตอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ใช้ได้กระแสไฟฟ้าความเสถียรสูง ไม่ตกไม่ดับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในระบบผลิต และยังสามารถผลิตไอน้ำพลังความร้อนป้อนภาคอุตสากรรมได้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม้ผู้ประกอบการ SPP ได้ยอมตามเงื่อนไขของ กพช. ทั้งการปรับลดสัดส่วนการขาย ไฟฟ้าให้ กฟผ.จาก 90 เมกะวัตต์ เหลือเพียง 30 เมกะวัตต์ต่อโรงไฟฟ้า เพื่อให้ทางเทคนิคสามารถสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ ขณะที่ราคาก็ลดลงมามากแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าในทางปฎิบัติใดเกิดขึ้น

" SPP เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนใช้เป็นตัวชี้วัดและกำหนดอนาคตว่าจะร่วมลงทุนในประเทศไทยหรือไม่โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้ เพราะหากยืดยาวออกไปท้ายสุดอาจกลายเป็นปัจจัยผลักให้นักลงทุนตัดสินใจเปลี่ยนหรือ โยกย้ายการลงทุนออกจากประเทศไทย กระทบโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ภาครัฐควรเร่งสร้างความชัดเจนในรูปแบบของการต่ออายุโดยเร็ว ซึ่งภาคเอกชนก็พร้อมที่จะสนองนโยบาย เพื่อมีส่วนร่วมสร้างประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศที่จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง"

แม้ปัจจุบันไทยจะมีกำลังไฟฟ้าสำรองในระบบที่เพียงพอ แต่ส่วนหนึ่งมาจากการพึ่งพาเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ลาว ดังนั้นในสภาวะการณ์ที่ภัยธรรมชาติกลายเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมและเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จนอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้าในระบบฉุกเฉินแบบไม่คาดคิด การมี SPP น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของภาคประชาชนกรณีเกิดเหตุวิกฤตด้วย

การตัดสินใจของกระทรวงพลังงานต่อจากนี้ ว่าจะหาข้อสรุปให้เป็นไปในทิศทางใดนับว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ และการเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย EEC ตามที่รัฐบาลกำหนดเป็นอย่างมาก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?