นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า ภาพรวมของรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มเติบโตดี เนื่องจากบริษัทฯสามารถรับรู้รายได้ ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ครบทั้ง 6 แห่งแบบเต็มปี รวม ทั้งสิ้น 60 เมกะวัตต์ จากปีที่ผ่านมาที่ COD อยู่ที่ 50 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯจะยังไม่มีการ COD เพิ่มเติม แต่ก็มั่นใจว่าผลงานตลอดทั้งปี 2561 มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีการควบคุมประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่ดี สามารถลดต้นทุนกระบวนการผลิต ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการตลอดทั้งปี 2561 บริษัทฯมีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบทำสถิติสูงสุดใหม่ได้
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้เปิดเผยว่า " หลังจากที่บริษัทเริ่มทยอยใช้ พืชพลังงานรากแก้ว ที่มีค่าความร้อนสุทธิ 2,235.16 kcal/kg หรือ 9,356.37 kJ/kg มาผสมกับเชื้อเพลิงหลักเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเชื้อเพลิงหลัก สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงเสริมในกระบวนการผลิต และเป็นการจัดการต้นทุนให้ต่ำลงตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้"
ปัจจุบัน TPCH มีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) 6 แห่ง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE),โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) โรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างทั้งสิ้น 49 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา คือโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ (SP) กำลังการผลิตติดตั้งขนาด 9.5 เมกะวัตต์ ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาตามความพร้อมภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 และ มีเป้าหมายภายในปี 2563 มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะรวมเป็น 50 เมกะวัตต์
อนึ่ง ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส2/61 TPCH มีรายได้รวม 395.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 239.90 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 90.35 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 49.79 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.56 ล้านบาท หรือ เติบโต 123%
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทฯ มีรายได้ 737.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 475.73 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 171.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.48 ล้านบาท