นับตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน พีทีที โออาร์ ใช้น้ำมันปาล์มดิบไปแล้วกว่า 2.3 ล้านตัน เพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล บี 100 กว่า 2,600 ล้านลิตร ซึ่งคิดเป็นปริมาณถึงร้อยละ 35 ของการใช้น้ำมันปาล์มดิบในภาคเชื้อเพลิงทั้งหมดของประเทศ และนำมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายไปแล้วกว่า 45,800 ล้านลิตร ทั้งนี้ พีทีที โออาร์ คาดว่า หากค่ายรถยนต์ให้การรับรองการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในสัดส่วนที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้ใช้รถเกิดความมั่นใจและมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในปริมาณสูงขึ้นด้วย โดย พีทีที โออาร์ คาดว่า จะทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 จากปริมาณการใช้ของปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 490,000 ตันต่อปี
นางสาวจิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 คือ ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ พีทีที โออาร์ ซึ่งมีจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จำนวน 30 แห่งทั่วประเทศ และจะเพิ่มจำนวนสาขาอย่างต่อเนื่อง โดย พีทีที โออาร์ ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตลอดทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิต ขนส่ง จัดเก็บ และจำหน่าย โดยมีหน่วยงานควบคุมคุณภาพออกตรวจคุณภาพน้ำมันทุกชนิดในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทุกแห่งอย่างสม่ำเสมอโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ พีทีที โออาร์ พร้อมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงานในการเพิ่มปริมาณการใช้ไบโอดีเซล บี 100 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มที่ได้รับผลกระทบจากราคาปาล์มตกต่ำ ช่วยบรรเทาสภาวะมลพิษทางอากาศ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงของประชาชน อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าน้ำมันของประเทศอีกด้วย