นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตพลังงานของประเทศไทย ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน มีความยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันนโยบายของรัฐบาลประเทศเวียดนามมีความต้องการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และได้ตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนสัดส่วน 5%ของการใช้พลังงานทั้งหมดภายในปี 2563
ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ประเทศเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่โครงการ XT1 และ XT2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110.03 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam ("EVN") เป็นเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed in Tariff หรือ FIT ที่ 0.0935 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และราคาตลาดอีก 5 ปี โดยเป็นการลงทุนผ่าน Phu Khanh Solar Power Joint Stock Company ("PKS") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ถือหุ้นในสัดส่วน65%
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 โครงการ XT1ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(Commercial Operating Date : COD) และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 และโครงการ XT2 ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าฯให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม "Vietnam Electricity" หรือ "EVN" พร้อมเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่วันที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เป็นต้นไป
"โครงการดังกล่าว น่าจะเป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยคาดหวังว่าโครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตไปร่วมกันต่อไปในอนาคต ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ จะยังมุ่งเน้นในการสร้างโรงไฟฟ้าและมองหาโอกาสทางธุรกิจทางด้านพลังงานทดแทนต่อไป "
"ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ปีนี้จะมีการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้น 130 เมกะวัตต์ โดยจะมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ ประเทศเวียดนาม 110 เมกะวัตต์และจะมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ประเทศญี่ปุ่นโครงการ คูริฮาร่า 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 และ Shichikashuku1 ขนาดกำลังการผลิต 2.65 MW โดยเป็นบริษัทย่อยที่ EPCO ถือหุ้นอยู่ 98% โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปีในระบบ Fit ซึ่งราคาขายไฟฟฟ้าอยู่ที่ 36 เยนและที่ 21 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงคงที่ตลอดอายุสัญญา และคาดว่าน่าจะ COD ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 62 นี้ แน่นอน" ประธานกรรมการกล่าวในที่สุด