ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ สนองนโยบายสำรองก๊าซของกรมธุรกิจพลังงาน เผยโฉมคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 ด้วยมูลค่าการลงทุนก่อสร้างกว่า 550 ล้านบาท

พฤหัส ๒๒ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๑๒
ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ สนองนโยบายสำรองก๊าซของกรมธุรกิจพลังงาน เผยโฉมคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 ด้วยมูลค่าการลงทุนก่อสร้างกว่า 550 ล้านบาท

ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ผู้จัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของไทย เตรียมเปิดดำเนินการคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง ส่วนต่อขยายเฟส 3 ด้วยความจุกว่า 8,700 ตัน ซึ่งส่งผลให้คลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกงเป็นคลังก๊าซขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทด้วยความจุรวมทั้ง 3 เฟส ถึง 13,015 ตัน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ในช่วงทดลองระบบ ซึ่งจะช่วย เสริมศักยภาพของคลังเก็บและจ่ายก๊าซแอลพีจีของบริษัททั่วประเทศให้มีความสามารถบรรจุก๊าซรวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 18,341 ตัน สอดคล้องกับข้อบังคับของกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ที่กำหนดให้ผู้ค้าแอลพีจี มาตรา 7 ต้องสำรองก๊าซแอลพีจีในคลังเพิ่มจาก 1% (3 วัน) เป็น 2% (7 วัน) ของปริมาณการค้าประจำปี เพื่อเสริม ความมั่นคงระบบพลังงานไทย มั่นใจสามารถเปิดดำเนินการได้ 1 มกราคม 2564 อย่างแน่นอน

นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ตลอด 40 ปีในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา เวิลด์แก๊สไม่เคยหยุดนิ่งในการส่งมอบพลังงานสะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พลังของ การคิดบวก พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการบริการ ผ่านความรู้และประสบการณ์อันยาวนาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ในการขยายศักยภาพคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 ครั้งนี้ บริษัทได้ทุ่มงบในการลงทุนก่อสร้างกว่า 550 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนองนโยบายของกรมธุรกิจพลังงานที่กำหนดให้ผู้ค้าแอลพีจี มาตรา 7 ต้องสำรองก๊าซแอลพีจีในคลังเพิ่มจาก 1% (3 วัน) เป็น 2% (7 วัน) ของปริมาณการค้าประจำปี เพื่อเสริมความมั่นคงระบบพลังงานไทย และรองรับการเปิดเสรีธุรกิจ ในอนาคต ควบคู่กับการเสริมศักยภาพของซัพพลายเชนให้พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานของไทย ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีการเพิ่มความจุในเฟส 3 กว่า 8,700 ตัน จะส่งผลให้คลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกงกลายเป็นคลังก๊าซขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัท ด้วยความจุรวมทั้ง 3 เฟสกว่า 13,015 ตัน โดยคลังเก็บก๊าซบางปะกงใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและทันสมัย คำนึงถึงการดำเนินการที่มี ความปลอดภัยสูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14000 และ ISO 45001 ทั้งในด้านการกักเก็บ การบรรจุ และการขนส่ง คลังแห่งนี้ยังมีความโดดเด่นตรงทำเลที่ตั้ง ริมแม่น้ำบางปะกง รองรับการขนส่งก๊าซทางเรือจากอ่าวไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการรับ และกระจายสินค้าของบริษัทสู่ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกของประเทศไทย รวมถึงเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อมรองรับแผนการในการกระจายสินค้าทางเรือในอนาคต เอื้อต่อการกระจายสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างทั่วถึง ทั้งในภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม และภาคครัวเรือน รวมถึงทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแยกเก็บก๊าซโดยแยกตามคุณภาพตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้มากขึ้น โดยคาดว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการฝากสำรองก๊าซของบริษัทในปัจจุบันได้

ปัจจุบัน ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ มีคลังเก็บและจ่ายก๊าซ ทั้งหมด 5 แห่งทั่วประเทศ ความจุรวม18,341 ตัน ประกอบด้วย

  • คลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง (ฉะเชิงเทรา) ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ความจุ 13,015 ตัน
  • คลังเก็บและจ่ายก๊าซบางจะเกร็ง (สมุทรสงคราม) ครอบคลุมพื้นที่ภาคตกวันตกและภาคใต้ตอนบน ความจุ 1,800 ตัน
  • คลังเก็บและจ่ายก๊าซขอนแก่น ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความจุ 1,980 ตัน
  • คลังเก็บและจ่ายก๊าซลำปาง ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ความจุ 186 ตัน
  • คลังเก็บและจ่ายก๊าซพิจิตร ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ความจุ 1,360 ตัน

"การเพิ่มศักยภาพในการขยายคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 นี้ จะสามารถเพิ่มศักยภาพของ ซัพพลายเชนของเราในการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมและรวดเร็วทันต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น รวมถึงเป็นการช่วยในเรื่องการบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งในเรื่องของการขนส่ง และการฝากสำรองก๊าซ ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้านให้กับบริษัท อีกทั้งยังส่งผลให้ ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เป็นต้นแบบของผู้ค้าก๊าซมาตรา 7 ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นไปตามกฎข้อบังคับและนโยบายของกรมธุรกิจพลังงานและภาครัฐ ซึ่งจะช่วยยกระดับให้ปริมาณก๊าซของผู้ค้าก๊าซแอลพีจีในระบบพลังงานไทยมีความมั่นคงมากขึ้น" นายนพวงศ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้