แสนสิริเริ่มต้นไตรมาส 4 สวยงาม เพียง 2 สัปดาห์กวาดตัวเลขยอดขายไปแล้วเกือบ 3,000 ล้านบาท เกินกว่าคาดการณ์ยอดขายที่ตั้งไว้ หลังประเดิมความสำเร็จจากงาน “Homes for the Holidays” เพียง 3 วัน สร้างยอดขายรวมจาก 7 โครงการใหม่ ใน 4 เมืองท่องเที่ยวหลักได้ถึง 1,300 ล้านบาท เผยคอนโดฯ ตากอากาศยังฮ็อตต่อเนื่อง เตรียมขยายโปรเจกต์ใหม่รองรับความต้องการในอนาคต พร้อมส่งสัญญาณชัด!! จากยอดขายที่ดี คาดสามารถปิดเป้าหมายไตรมาสสุดท้ายได้ตามเป้าที่ 14,000 ล้านบาทซึ่งนับเป็นเป้าหมายยอดขายที่สูงที่สุดในไตรมาสเดียว
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความสำเร็จของการจัดงาน “Homes for the Holiday” ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า แสนสิริสามารถสร้างยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 7 โครงการ ใน 4 เมืองท่องเที่ยวต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และเขาใหญ่ ที่ได้รวบรวมเพื่อนำเสนอทางเลือกสำหรับโครงการบ้านพักตากอากาศที่ตอบโจทย์ความต้องการวันพักผ่อนให้แก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับความสำเร็จจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของบริษัทแสนสิริเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในขณะนี้ (1 ตุลาคม — 15 ตุลาคม 2555) คิดเป็นยอดขายรวมเกือบ 3,000 ล้านบาท สูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ รวมทั้งสูงกว่าในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ต.ค. 2554) ทั้งเดือนซึ่งทำได้ที่ 2,200 ล้านบาท
“สำหรับคอนโดมิเนียมตากอากาศ 7 โครงการที่นำมาร่วมในงานนี้ มูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเชโลน่า เขาเต่า (Chelona) มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โครงการบ้านอิ่มเอม หัวหิน (Baan Imm-Aim) มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท โครงการ ออทัมน์ (Autumn) หัวหิน มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท โครงการบ้านแสนงาม หัวหิน (Baan Sanngam) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท โครงการบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ (Baan Plai Haad) มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท โครงการบ้านไม้ขาว ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท และโครงการเดอะ วัลลีย์ (The Valley) เขาใหญ่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยโครงการที่มีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจสูงที่สุด ได้แก่ โครงการบ้านแสนงาม หัวหิน รองลงมาได้แก่ โครงการ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ และบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ พัทยาตามลำดับ นอกจากนี้ลูกค้ายังให้ความสนใจจองวิลล่าขนาด 3 ห้องนอน ในโครงการ 23 องศาเอสเตท เขาใหญ่ ระดับราคาเฉลี่ย 19.9 — 31 ล้านบาท เป็นอย่างสูงอีกด้วย สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศโครงการอื่นๆ ภายในงานก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยมียอดจองที่ดีรวมทั้งมีลูกค้าสนใจสอบถามข้อมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดคอนโดมิเนียมบ้านพักตากอากาศยังมีความต้องการสูงรวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดี ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมขยายการพัฒนาโครงการใหม่สู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายเศรษฐา กล่าว
การจัดงาน “Homes for the Holiday” ครั้งนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการกระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ ตลอดการจัดงาน 3 วันที่ผ่านมา โครงการต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนถึงกว่า 1,000 คน ความสำเร็จของงานเป็นผลมาจากการนำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์วันพักผ่อนได้อย่างแท้จริง รวมทั้งในแต่ละโครงการยังมีความโดดเด่นในด้านดีไซน์ ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดของวันพักผ่อน โครงการยังแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ซึ่งเมื่อรวมกับการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ด้วยบริการหลังการขายที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในวันพักผ่อนอย่างลงตัว ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จตามยอดขายที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
“ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาสที่ 4/2555 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกความต้องการ นอกจากนี้การที่บริษัทประสบความสำเร็จด้านยอดขายตั้งแต่เริ่มต้นไตรมาสเพียง 2 สัปดาห์ ยังทำให้คาดว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายปิดไตรมาสสุดท้ายได้ถึง 14,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเป้าหมายยอดขายที่สูงที่สุดที่เคยคาดการณ์ในช่วงไตรมาสเดียว ซึ่งจะส่งผลให้ปิดยอดขายได้ 40,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายยอดขายใหม่ที่มีการปรับครั้งล่าสุดอย่างแน่นอน” นายเศรษฐา กล่าว