นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวจริงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งรายใหญ่รายเล็ก ต่างประสบปัญหายอดขายบ้านต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ปีนี้ บางรายปรับลดเป้ายอดขายลง แต่บางรายคงเป้ายอดขายไว้ แล้วหันมาเน้นจัดโปรโมชั่นลดราคา 20-30% หวังแชร์กำลังซื้อจากคู่แข่งขัน พบว่าแค่ระยะเวลาเดือนเศษๆ ที่ก้าวเข้าสู่ช่วงไตรมาสสาม ผู้ประกอบการต่างงัดสารพัดกลยุทธ์ลดกระหน่ำราคาออกมาแข่งกันดุเดือด
"โปรโมชั่นดั๊มราคาลดสูงสุด 20-30% หนึ่งในกลยุทธ์แข่งขันที่ผู้ประกอบการบางราย นำมาใช้หวังกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มถึงกับตาลุกวาว หากว่าไม่ได้ศึกษาแบบแปลน พื้นที่ใช้สอย วัสดุ เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วนเสียก่อน ส่วนหนึ่งพบว่าคุณภาพที่ได้กับราคาบ้านสวนทางกัน แต่ก็มีผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งกลับรู้สึกกังวล เหตุใดราคาลดลงได้มากเช่นนี้ มีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่ ขณะเดียวกันก็สร้างความหวั่นใจ กับผู้ประกอบการรับสร้างบ้านด้วยกันเอง ด้วยเพราะไม่ใช่แค่จะดูดกำลังซื้อผู้บริโภคส่วนหนึ่งไปได้เท่านั้น แต่ยังหวั่นว่าหากค่าก่อสร้างบ้านลดลงได้ถึง 30% แล้วต้นทุนที่แท้จริงเท่าไรกันแน่ ความเคลือบแคลงสงสัยเหล่านี้ อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ที่ผู้บริโภคมีต่อผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งระบบก็เป็นได้"
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ปัจจุบันมีสาขาให้บริการ 43 สาขาทั่วประเทศ นายพิศาล กล่าวยอมรับว่า ในภาวะที่กำลังซื้อผู้บริโภคลดลงหรือมีจำกัด ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้านรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ เองได้รับแรงเสียดทานจากการแข่งขันราคา ของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลุ่มผู้รับจ้างรายย่อยที่แข่งขันอยู่ในต่างจังหวัด เพราะต่างหันมาใช้วิธีตัดราคาหรือลดราคาบ้าน 20-30% จากราคาปกติ นอกจากนี้ มีหลายรายที่ใช้วิธีกล่าวโจมตีระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์แบบผิดๆ
ตลอดระยะเวลา 5 ปีเศษที่ผ่านมา ระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์เองได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจในมาตรฐานบริการและคุณภาพสร้างบ้านเดียวกันทั่วประเทศ กระทั่งปัจจุบันสามารถขยายสาขาได้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และมีลูกค้าเลือกใช้บริการสร้างบ้านด้วยมากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลมาตรฐานคุณภาพดีเด่น ด้านการบริหารจัดการ และด้านผลประกอบการ 2 ปีซ้อน จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการที่ส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจแฟรนไชส์ไทย นายพิศาลกล่าว
สำหรับในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 140 ล้านบาท จากแคมเปญ "Green Build with PD House" ทำให้ปัจจุบันมียอดขายรวม 840 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ประเมินว่าครึ่งปีหลังตลาดรับสร้างบ้านจะยังแข่งขันราคากันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสามนี้ ในส่วนของบริษัทฯ เองคงไม่เล่นสงครามราคาตามคู่แข่ง แต่จะนำเอาความได้เปรียบและจุดขายหรือความแตกต่างที่มีอยู่มาใช้แทน อันได้แก่ 1.) สาขามากที่สุดกว่า 40 สาขาสามารถให้บริการได้ทั่วประเทศ 2.) บ้านอนุรักษ์พลังงาน ที่มีรางวัลการันตี 26 รางวัล จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และ 3.) โครงสร้างเสา-คานสำเร็จรูป ระบบมัลติจ๊อยล็อคซิสเต็ม ( Multi-Joint Lock System) ที่เป็นนวัตกรรมที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นและก่อสร้างได้รวดเร็ว ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าปี 2558 ที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาทแน่นอน