ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK) กล่าวว่า ปัจจุบันช.การช่าง มีความมั่นคงและแข็งแกร่งมาก สามารถสร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยผลประกอบการ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 19,671 ล้านบาท เติบโต 15% (QoQ) และ 9.0% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 2,132 ล้านบาท เติบโต 420% (QoQ) และ 208% (YoY) โดยคาดว่าในปี 2558 จะมีรายได้แตะระดับที่ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้เดิมคือ 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 80,859 ล้านบาท โดยงานเหล่านี้สามารถรับรู้รายได้อีกหลายปีข้างหน้าอย่างมั่นคง ทั้งนี้ Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมงานในอนาคตที่อยู่ระหว่างการเจรจาและรอลงนาม และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบผลการดำเนินงาน และมีมติให้บริษัทจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปี 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 423.47 ล้านบาท
ในส่วนของโครงการงานก่อสร้างของบริษัทมีความก้าวหน้าเป็นอย่างดีเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่น โครงการก่อสร้างสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ก้าวหน้า 76.0% โครงการก่อสร้างสถานีและทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก้าวหน้า 66.0% โครงการก่อสร้างทางด่วนศรีรัช – วงแหวน ก้าวหน้า 54.0% โครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีใน สปป.ลาว ก้าวหน้า 52.0% รวมถึงโครงการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก้าวหน้า 36.0% ซึ่งขบวนรถจะเริ่มทยอยส่งถึงประเทศไทยในเดือนกันยายน 2558 นี้ เพื่อเริ่มดำเนินการติดตั้งและทดสอบระบบ
ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทลงนามโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่า 3,620 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่า 1,071 ล้านบาท
2.โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 1,381 ล้านบาท
และ 3.โครงการก่อสร้างอาคารพิเคราะห์บำบัดโรคและบริการ พร้อมระบบสาธารณูปการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 1,168 ล้านบาท ในส่วนของงานในอนาคต บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการก่อสร้างต่างๆ รวมถึงงานลงทุนพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงคลอง 19-แก่งคอย และช่วงจิระ-ขอนแก่น
โครงการมอเตอร์เวย์ ช่วงพัทยา-มาบตาพุด โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลจะเร่งผลักดันให้เปิดการประมูลในปี 2558
สำหรับความคืบหน้าของการควบรวมกิจการระหว่าง BECL และ BMCL นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมจะจัดตั้งแล้วเสร็จและดำเนินการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในสิ้นปี 2558
ดร. สุภามาส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ครึ่งปีแรก ปี 2558 ช.การช่างมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งรายได้จากโครงการก่อสร้างและรายได้จากการปรับพอร์ทการลงทุนของบริษัทอย่างเหมาะสม ทำให้บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน บุคลากร ที่จะเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างและร่วมโครงการลงทุนขานรับนโยบายภาครัฐที่มุ่งผลักดันพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศให้พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในปีนี้ด้วย”