สถานการณ์รับสร้างบ้านไตรมาสแรก และแนวโน้มครึ่งปีแรก 2561

พุธ ๑๑ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๒:๕๖
ภาพรวมตลาดบ้านสร้างเอง

สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association: THBA) ประเมินความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศ ประเภท "บ้านเดี่ยวสร้างเอง" ในช่วง 3 เดือนแรกขยายและเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวม "บ้านสร้างเอง" ทั่วประเทศปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 แสนล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน (ไม่ใช่ผู้รับเหมาทั่วไป) ประเมินว่ามีแชร์ส่วนแบ่งตลาด 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท โดยประเมินว่าธุรกิจรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาดไตรมาสแรกประมาณ 3.8-3.9 พันล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมการแข่งขันพบว่ายังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง ทั้งในแง่การสร้างความน่าเชื่อถือ และทำลายความน่าเชื่อถือของคู่แข่งขันด้วยกันเอง รวมทั้งการแข่งขันตัดราคาของผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหม่ๆ ซึ่งสวนทางกับต้นทุนวัสดุและค่าแรงที่ทยอยปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกปีนี้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจจะยังไม่แสดงให้เห็นผลกระทบชัดเจนมากนักในช่วงครึ่งปีแรก หากแต่จะปรากฏผลในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อผู้ประกอบการเริ่มก่อสร้างและใกล้ส่งมอบงาน ซึ่งคงจะต้องเฝ้าจับตาและประเมินสถานการณ์ที่เป็นจริงอีกครั้งในครึ่งปีหลัง

ทิศทางตลาดและปัจจัยบวก-ลบ

แม้ทิศทางตลาดรับสร้างบ้านจะปรับตัวดีขึ้นในระยะ 3-6 เดือนที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านก็ไม่ควรประมาท ต่อแนวโน้มต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง หลายรายต่างทยอยขอปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มผู้ผลิตวัสดุโครงสร้างและซีเมนต์ราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 3-5% และกลุ่มวัสดุตกแต่งราคาปรับขึ้น 10-20% ฯลฯ ฉะนั้นหากผู้ประกอบการรายใดมียอดขายหรือออเดอร์สะสมค้างอยู่จำนวนมาก อาจมีความเสี่ยงสูงหรือกลายเป็น "ทุกขลาภ" เมื่อต้องขายบ้านราคาเดิมแต่กลับเผชิญกับต้นทุนใหม่ ที่ราคาปรับตัวขึ้นนำหน้าไปก่อนแล้ว

ทั้งนี้จากการสุ่มสำรวจตัวอย่าง สมาคมฯ พบว่าผู้ประกอบการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ ยังคงยืนราคาขายเดิมหรือไม่มีการปรับราคาในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบ่งบอกให้เห็นถึงปัญหาและความเสี่ยงการบริหารต้นทุนในอนาคต หากว่าผู้ประกอบการรายใดไม่มีอำนาจต่อรอง กับผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่แห่ปรับขึ้นราคากันทั่วหน้า นอกจากนี้ค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น อันมีผลมาจากปัญหาขาดแคลนแรงงานก็ยังเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ยังต้องเผชิญและแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวจึงบีบให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาบ้านตามกัน

การปรับตัวและแนวโน้มตลาดครึ่งปีแรก

สมาคมฯ ประเมินว่าผู้ประกอบการคงไม่อาจหลีกเลี่ยงต้นทุนค่าก่อสร้างใหม่ได้ และจำเป็นต้องเร่งปรับตัวหรือหาทางออก เพื่อมิให้ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะการหาทางลดต้นทุนค่าบริหารจัดการและค่าการตลาดลง อาจนำเทคโนโลยีก่อสร้างและเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่มาใช้งานมากขึ้น ใช้การตลาดออนไลน์เพื่อจะสื่อสารและเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ฯลฯ ปัจจุบันการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการจัดการแบบเดิมๆ ตลอดจนการขยายพื้นที่ตลาดหรือรับสร้างบ้านต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพและผู้บริโภคมีความต้องการใช้บริการผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยง ลดการแข่งขันในพื้นที่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง

สมาคมฯ ชี้แนะ

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านและการแข่งขันในช่วงไตรมาสแรกบรรยากาศโดยรวมน่าพอใจ ส่วนหนึ่งเกิดจากกิจกรรมการตลาดที่บรรดาผู้ประกอบการแข่งขันกันจัดขึ้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงนี้ ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ การจัดอีเวนท์งานบ้านและวัสดุในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือแบบบ้านเทรนด์ใหม่ๆ สู่ตลาด ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ยอดขายที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการชั้นนำหลายรายที่ประกาศตัวเลขออกมาค่อนข้างสวยหรู

สมาคมฯ คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เชื่อว่าความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อยังดีต่อเนื่อง หากแต่ผู้ประกอบการต้องเร่งพัฒนาและปรับตัวเอง เพื่อยกระดับและหนีมุมมองธุรกิจรับสร้างบ้านของผู้บริโภคที่ว่า "ยุ่ง ช้า ห่วย" อันได้แก่ 1.การให้บริการมีขั้นตอนยุ่งยาก 2.การก่อสร้างบ้านใช้ระยะเวลานาน และ 3.บ้านที่สร้างไม่มีคุณภาพที่แน่นอน ประเด็นที่กล่าวมาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่อยู่ในธุรกิจนี้ ควรหาทางและร่วมมือกันปฏิวัติวงการรับสร้างบ้าน ก่อนที่ผู้บริโภคจะหนีไปใช้ตัวเลือกอื่นแทน เช่น บ้านจัดสรร คอนโดฯ และผู้รับเหมา ฯลฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?