นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "สิงห์ เอสเตท ให้ความสำคัญกับแนวคิด "มุ่งพัฒนาธุรกิจด้วยการสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม" เน้นความสำคัญเรื่องการพัฒนาควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ที่รักษาความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการฟื้นฟูทรัพยากร ซึ่งตลอดปี 2561 บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล อาทิ โครงการโตไวไว ครั้งที่ 2 ที่ทาง สิงห์ เอสเตท ร่วมสนับสนุนโครงการติดตามและฟื้นฟูปะการังในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน พร้อมการปลูกปะการังด้วยวิธี Coral Propagation บริเวณอ่าวมาหยา และได้มีการเปิดศูนย์เรียนรู้ทางทะเลที่ บริเวณ โรงแรมพีพีไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดทำแคมเปญ #SeaYouTomorrow ซึ่งเป็นแคมเปญรณรงค์คนเมืองลดใช้ขยะพลาสติก รวมถึงปลุกจิตสำนึกการแยกขยะที่ถูกต้องในช่วงวันทะเลโลก"
โดยล่าสุดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงทาง สิงห์ เอสเตท ได้มีแนวคิดสานต่อโครงการ #SeaYouTomorrow เพื่อสร้างการตระหนักรู้และมุ่งหวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยทำการสื่อสารไปยังบุคคล 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชาชนทั่วไป ผ่านทางหนังสั้นให้ความรู้เกี่ยวพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบกับวงจรชีวิตของปลาการ์ตูน และความยากลำบากในเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนเพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีการเผยแพร่ให้รับชมพร้อมกันผ่านช่องทางออนไลน์ในช่วงวันคริสมาสต์นี้ และอีกกลุ่ม คือ กลุ่มพนักงาน ผู้ค้า และประชาชนโดยรอบตึกซันทาวเวอร์ส กว่า 10,000 คน ผ่านการจัดนิทรรศการรณรงค์เพื่อให้ทุกคนร่วมฉลองปีใหม่อย่างสร้างสรรค์ ลดการสร้างขยะให้มากที่สุด ประกอบด้วย จุดเล่นเกมที่ให้ความรู้เรื่องการย่อยสลายของขยะชนิดต่างๆ ต้นคริสต์มาสที่ทำจากขยะรีไซเคิล รวมถึงของทุกชิ้นที่นำมาประดับตกแต่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในปีต่อไป ซึ่งถือเป็นการจัดงานคริสต์มาสอย่างรับผิดชอบและไม่สร้างขยะเพิ่มให้กับสังคม
"เราจัดทำโครงการทั้งหมดนี้เพื่อมุ่งหวังได้เห็นพฤติกรรมของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก คือ มีความเข้าใจในการปฏิบัติตัวที่ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ถือเป็นระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้น สิงห์ เอสเตท ขอเป็นหนึ่งฟันเฟืองเล็กๆ ที่จะมีส่วนร่วมช่วยผลักดันให้เกิดกระแสอนุรักษ์ท้องทะเลไทย เพื่อรักษาความสวยงามและเสน่ห์ให้อยู่คู่ประเทศไทยไปอย่างยาวนาน" นายนริศ กล่าวปิดท้าย