SMART เผยตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปี 62 สัญญาณดี เลือกตั้งชัดเจน EEC งานโครงสร้างพื้นฐาน หนุน ดีมานด์พุ่ง เอกชนทยอยลงทุน นิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า คาดปีนี้พลิกมีกำไร ตั้งเป้าโต 10 % รายได้ 400 ล้านบาท

พฤหัส ๒๔ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๕:๑๔
SMART เผยตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปี 62 สัญญาณดี เลือกตั้งชัดเจน EEC งานโครงสร้างพื้นฐาน หนุน ดีมานด์พุ่ง เอกชนทยอยลงทุน นิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า คาดปีนี้พลิกมีกำไร ตั้งเป้าโต 10 % รายได้ 400 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์มวลเบาตกแต่งเพิ่ม ขยายฐานลูกค้ากลุ่มสถาปนิก ผู้รับเหมารายย่อย งานโครงการอสังหาฯ ดันมาร์จิ้นโต ทุ่มงบ 50 ล้านบาท พัฒนาซอฟแวร์เสริมประสิทธิภาพเครื่องจักร เพิ่มกำลังการผลิต

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศในปี 2562 ว่า จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น สืบเนื่องมาจากความชัดเจนของการเลือกตั้งส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาลงทุนอีกครั้ง ในขณะเดียวกันนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า โครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ของภาครัฐ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่มากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น และราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะสามารถพลิกมีกำไรในปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้ 400 ล้านบาท เติบโต 10 % และตั้งงบลงทุนสำหรับการพัฒนาซอฟแวร์เสริมประสิทธิภาพเครื่องจักร เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับปริมาณคำสั่งซื้อ ไว้ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทมีแผนเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น และมีการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมุ่งเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ "อิฐมวลเบาประเภทตกแต่ง" มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline ) เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย โดยคาดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีและมีคำสั่งซื้อจากโครงการในภาคตะวันออก กลุ่มลูกค้าสถาปนิก และผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้งานภาครัฐอยู่ที่ 28 % ภาคเอกชน อยู่ที่ 70%

สำหรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV บริษัทมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยมีกระแสตอบรับที่ดีและมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าว อีกทั้งบริษัทรักษาสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศในปี 2562 อยู่ที่ 3 % ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMVอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest