นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะมาจากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก โดยผลประกอบการโดยรวมของธุรกิจโรงแรมดีขึ้น คาดว่าจะสามารถทำรายได้ถึง 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,700 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา จากการที่โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาก โดยส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการเปิดไอคอนสยาม ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม ทำให้จำนวนผู้เข้าพักเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา จีน รวมถึงชาวไทย ส่งผลให้ปัจจุบันโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 80%
บริษัทฯ ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการโรงแรมแห่งใหม่ "ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท" ซึ่งมีห้องพักจำนวน 273 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา โดยได้ทำทางเชื่อมจากสถานีบีทีเอสนานาตรงเข้าสู่โรงแรมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งจะแล้วเสร็จและเปิดใช้ในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มรายได้ในส่วนอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการเปิด "สเปคทรัม เลาจน์ แอนด์ บาร์" รูฟท็อปบาร์แห่งใหม่ของกรุงเทพในเดือนมีนาคมนี้เช่นกัน ครอบคลุมพื้นที่ของโรงแรมถึง 3 ชั้น ออกแบบโดย ซุปเปอร์ โปเตโต้ บริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น และเน้นธุรกิจไมซ์ ซึ่งไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท มีพื้นที่จัดประชุมและจัดงานกว่า 1,359 ตารางเมตร โดยห้องบอลรูมสามารถรองรับได้มากกว่า 850 คน รวมถึงห้องประชุมอีก 4 ห้อง ที่สามารถปรับขนาดรองรับได้ตั้งแต่ 24-140 คน ภายในโรงแรมยังมีพื้นที่ส่วนพลาซ่า มีร้านต่างๆ อาทิ ร้านอาหารอิตาเลี่ยน Feast by NONAME พร้อมบริการอาหารนานาชาติ, ร้านอาหารญี่ปุ่น Sasada Omagase Japanese โดยเจ้าของและเชฟชาวญี่ปุ่น, The Coffee Club คาเฟ่ต้นกำเนิดจากออสเตรเลีย, Arno's Burger ร้านเสต็กสไตล์อเมริกัน และ Let's Relax บริการสปาสัญชาติไทยมาตรฐานสากล โดยสามารถรองรับทั้งผู้เข้าพักโรงแรมและนักท่องเที่ยว
ด้านความคืบหน้าโครงการ "ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ" ซึ่งอยู่ในช่วงเปิดพรีเซลส์ ตั้งเป้ายอดขายช่วงพรีเซลส์ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกนี้ บริษัทฯ มีแผนนำโครงการไปโรดโชว์ในประเทศโซนเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียว และเซี่ยงไฮ้ เพื่อเพิ่มยอดขายจากนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากคอนโดทำเลทองหล่อยังคงเป็นที่ต้องการของทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ และเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ประเทศญี่ปุ่น เป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น จำนวน 311 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 2.5 ไร่ ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ระหว่างสถานีบีทีเอสทองหล่อและเอกมัย โดยอยู่ห่างจากสถานีบีทีเอสทองหล่อ 300 เมตร ประกอบด้วยห้องขนาด 1-3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และ เพนท์เฮ้าส์ พร้อมที่จอดรถ 100% ราคาขายเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563