นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักติดต่อกันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคอีสาน เช่น ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ส่งผลให้บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังและประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน ถนนหลายแห่งถูกตัดขาด ทำให้การขนส่งและเดินทางยากลำบากขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอยู่พอสมควรโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัย
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านนั้นได้รับผลกระทบอยู่พอสมควร ทั้งจากกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว และการขนส่งวัสดุเกิดความล่าช้ากว่าปกติ ผู้ประกอบการเองต้องปรับตัวและมีแผนรองรับเอาไว้ เนื่องจากเส้นทางการจราจรบางเส้นทางถูกตัดขาดจากกระแสน้ำ รวมถึงบางรายต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมไซต์งานก่อสร้างจนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพีดีเฮ้าส์เองได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใช้ระบบก่อสร้างเสา-คานสำเร็จรูปที่เรียกว่า "มัลติจอยท์ล็อคซิสเต็ม" (Multi-joint Lock System) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพมาจากโรงงาน จากนั้นจึงนำมาประกอบและติดตั้งที่ไซต์ก่อสร้าง แม้ว่าจะมีฝนตกก็เป็นอุปสรรคไม่มาก เนื่องจากสามารถทำการก่อสร้างได้เกือบเป็นปกติ แต่จะมีส่วนที่เป็นอุปสรรคอยู่บ้าง ในเรื่องการขนส่งวัสดุเฉพาะในพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วม รวมถึงการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านของลูกค้าที่อาจจะล่าช้าออกไป ซึ่งจะต้องรอให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ จึงจะประเมินผลกระทบที่ได้รับอีกครั้ง
ด้าน นางสาวถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหาร สายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลต่อการตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่อยู่บ้างในช่วงไตรมาส 4 ในส่วนของพีดีเฮ้าส์เองนั้นได้เตรียมนำเสนอแบบบ้าน ที่เหมาะสำหรับปลูกสร้างในเขตพื้นที่ที่มีโอกาสเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมบ่อย เพื่อช่วยแก้ปัญหาและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ที่ต้องการสร้างบ้านในพื้นที่ลักษณะดังกล่าว ภายใต้แนวคิด "Protex Home" หรือ "บ้านปกป้องน้ำท่วม" ลักษณะบ้านเป็นการยกพื้นสูง โดยนำภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อน มาประยุกต์กับงานออกแบบหรือดีไซน์สมัยใหม่ เน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุดในงบประมาณที่คุ้มค่า ทั้งนี้จะมีแบบบ้านให้เลือกปลูกสร้างจำนวน 8 แบบ ระดับราคา 3-4 ล้านบาทเศษ พื้นที่ใช้สอยขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2-3 คัน โดยจะเน้นสื่อสารกับผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ พร้อม ๆ กับสร้างคอนเทนท์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อออนไลน์ (Online Marketing) ควบคู่กับการใช้ช่องทางสื่อสารแบบ 2 ทางบนโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากที่สุด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาระบบการก่อสร้างบ้านให้มีคุณภาพสูงกว่าทั่ว ๆ ไป โดยในช่วงไตรมาส 4 นี้ มีแผนจะนำปูนฉาบสูตรปกป้องผนัง "พีดี มอร์ต้าร์ พลัส" มาใช้ในการก่อสร้างบ้านของลูกค้าทุกหลัง เพื่อจะลดการแตกร้าวของปูนฉาบผนัง อันเกิดจากสภาพอากาศและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ปูนฉาบสูตรปกป้องผนัง "พีดี มอร์ต้าร์ พลัส" เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับพันธมิตรธุรกิจที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จมาแล้วด้วยดี จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ หรือ WPC (Wood plastic composites) ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเช่นกัน ภายใต้ชื่อ "พีดี วูด" เพื่อนำไม้สังเคราะห์มาใช้กับงานตกแต่งฝาผนัง ฝ้าชายคา และฝ้าเพดานภายนอกให้มีความสวยงามเสมือนไม้จริง
"ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แม้ตลาดบ้านสร้างเองจะไม่เติบโต รวมทั้งในหลายพื้นที่ของประเทศยังประสบปัญหาน้ำท่วม จนทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ตัวเลขยอดขายของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ทั่วประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่าสิ้นปี 2562 นี้จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 1,200 ล้านบาท อย่างแน่นอน" นางสาวถิรพร กล่าวสรุป