ตลาดสำนักงานเปลี่ยนโฉมหน้าหลังโควิด-19 ระบาด

อังคาร ๐๗ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๔:๐๙
ในช่วงที่มีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในรอบ 100 ปี ซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกเผยว่า เหตุการณ์จะถูกแยกออกเป็นช่วงก่อนและช่วงหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอาคารสำนักงานที่พฤติกรรมการใช้พื้นที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมากภายในระยะเวลาไม่ถึงปี
ตลาดสำนักงานเปลี่ยนโฉมหน้าหลังโควิด-19 ระบาด

นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “ในระยะเวลาที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด-19 บริษัทหลายแห่งได้พยายามทดลองใช้วิธีการทำงานนอกสำนักงาน (Remote Working) หรือทำงานจากบ้าน (Work From Home) เพื่อลดค่าใช้จ่ายหรือเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มมิลเลนเนียล แต่ในขณะนี้แทบทุกบริษัท แม้กระทั่งบริษัทที่ยังไม่เคยมีการเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยีก็ถูกบังคับให้ต้องใช้วิธีการทำงานแบบใหม่นี้โดยปริยาย”

หลายบริษัทที่กำลังใช้นโยบายการทำงานจากบ้านเริ่มรับรู้ว่าการทำงานดังกล่าวสามารถที่จะทำได้จริงหากนำไปปรับใช้กับบางหน่วยงานในองค์กร โดยสร้างสมดุลที่ดีระหว่างการมอบหมายความรับผิดชอบและการตรวจสอบการทำงานของทีมงาน ซึ่งอาจหมายถึงว่าสถานที่ทำงานในอนาคตจะเป็นพื้นที่สำนักงานที่มีความยืดหยุ่น (Agile Workplace) โดยเป็นการผสมผสานระหว่างสำนักงานใหญ่ การทำงานจากบ้าน และโคเวิร์กกิ้งสเปซ

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19นี้เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้บริษัททั่วไปได้เห็นภาพได้ชัดเจนว่า นโยบายการทำงานนอกสำนักงานที่วางแผนไว้นั้นใช้ได้จริงหรือไม่ ธุรกิจต่างๆ เริ่มตระหนักว่าแพลตฟอร์มหรือระบบพื้นฐานใดที่จำเป็นและยังขาดหายไปเพื่อรองรับการทำงานรูปแบบนี้ บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์รายแรกๆ ภายหลังจากสถานการณ์นี้

“หลายองค์กรจะมองหาสำนักงานย่อยและแพลตฟอร์มบนคลาวด์ เพื่อเป็นแผนสำรองให้มั่นใจว่าธุรกิจจะไม่หยุดชะงักหากไม่สามารถเข้าสำนักงานใหญ่ได้ โคเวิร์กกิ้งสเปซก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะบริษัทสามารถเช่าพื้นที่ได้ตามต้องการเมื่อมีเหตุจำเป็นที่ไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังการระบาดโควิด-19 ผู้ให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซจำเป็นต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการว่าพื้นที่ของตนเองมีความปลอดภัยและมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี” นางสาวรุ่งรัตน์กล่าวเสริม

ซีบีอาร์อีพบว่าในขณะที่โรงแรมบางแห่งในกรุงเทพมหานครตัดสินใจปิดให้บริการในช่วงปิดเมืองหรือล็อคดาวน์เพราะอัตราการเข้าพักเหลือเพียงระดับเลขตัวเดียว บางบริษัทกลับเช่าห้องประชุมหรือห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมเป็นสัปดาห์เพื่อใช้เป็น พื้นที่สำรองในการประชุมเมื่อมีความจำเป็น

นางสาวรุ่งรัตน์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “การจัดพื้นที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นซึ่งสนับสนุนการทำงานร่วมกันและการมีส่วนร่วมของพนักงาน เป็นเรื่องที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงก่อนการระบาดโควิด-19 โดยในตอนแรกพื้นที่ประเภทนี้อาจฟังดูเหมือนเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับบริษัทในช่วงเวลาเช่นนี้ แต่ตามความหมายของความยืดหยุ่น พื้นที่ทำงานเหล่านั้นสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการทำงานตามกิจกรรมที่เกิดขึ้น (Activity Based Workplace) เพื่อสนับสนุนการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และการกระจายทีมงานในสำนักงาน รวมทั้งทำให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่การเป็นสำนักงานไร้การใช้กระดาษได้อย่างง่ายขึ้น”

หากมองภาพในมุมที่กว้างขึ้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีเห็นว่าการพัฒนาอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ หลายแห่งจะมีความล่าช้า เนื่องจากการก่อสร้างหยุดชะงักหรือถูกเลื่อนออกไป เพราะผู้พัฒนาโครงการมีท่าทีตั้งรับมากขึ้นในการประเมินสถานการณ์แต่ละวัน นอกจากนี้ยังอาจมีการปรับแผนการพัฒนาเพื่อทำให้โครงการน่าสนใจยิ่งขึ้นในช่วงหลังการระบาดโควิด-19 โดยปรับปรุงระบบการบริหารอาคาร ระบบกรองอากาศที่ดีขึ้น (เนื่องจากปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังมีอยู่ในกรุงเทพฯ) หรือมีแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity Plan - BCP) ที่ดีขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้เช่า

ความยืดหยุ่นและการปรับตัวจะเป็นสิ่งสำคัญในตลาดอาคารสำนักงานช่วงหลังการระบาดโควิด-19 ไม่ใช่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสถานที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังเพื่อเตรียมความพร้อมทางธุรกิจสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ติดตามข่าวสารจากซีบีอาร์อีเพิ่มเติมได้ที่

Facebook: CBREThailandLinkedIn: CBRE ThailandTwitter: @CBREThailandInstagram: CBRE Residential ThailandLINE@: @CBREThailand

เกี่ยวกับซีบีอาร์อี กรุ๊ป อิงค์

ซีบีอาร์อี กรุ๊ป อิงค์ (NYSE:CBRE) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และบริษัทด้านการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พิจารณาจากผลประกอบการในปี 2562) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครลอสแองเจลลิส ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน Fortune 500 และเป็น 1 ใน 500 บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดโดยสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส บริษัทมีบุคลากรมากกว่า 100,000 คนในสำนักงานมากกว่า 530 สาขาทั่วโลก ซีบีอาร์อีเริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2531 และขยายไปสู่สาขาภูเก็ตในปี 2547 ซีบีอาร์อี ประเทศไทยได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยให้บริการด้านการเป็นตัวแทนในการซื้อขาย ให้เช่า และบริหารการตลาดให้แก่อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท บริการบริหารอาคาร บริหารทรัพยากรทางกายภาพ และบริหารโครงการด้วยมาตรฐานระดับสากล บริการด้านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การประเมินราคาทรัพย์สิน การพัฒนาโครงการ และการศึกษาวิจัยตลาด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการ สามารถเข้าชมได้ที www.cbre.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๓๙ สมาคมธนาคารไทย ออกแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางทั้งลูกค้าบุคคลและSME
๑๔:๐๒ ผู้ลงทุนเชื่อมั่น โลตัส (Lotus's) จองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวน 9 พันล้านบาท
๑๔:๑๕ สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%
๑๔:๔๘ MASTER ประชุมผู้ถือหุ้นปี 67 ผ่านฉลุย ไฟเขียวจ่ายปันผล เดินหน้าสร้างโอกาสโตตามกลยุทธ์ MP
๑๔:๔๓ ธนาคารกรุงเทพ จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ส่งเสริมการผลิตบุคลากร-พัฒนาศักยภาพ-ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
๑๔:๒๐ ITEL จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. เห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผลอัตรา 0.0696 บ./หุ้น
๑๔:๒๙ ไทยพาณิชย์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch เปิดตัว โปรจีน อาฒยา นักกอล์ฟหญิงระดับโลก เป็น Brand
๑๔:๓๐ KCG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น
๑๔:๔๙ บาฟส์ ประกาศความสำเร็จ ลุยขยายโครงข่ายขนส่งน้ำมันทางท่อ เชื่อมต่อเครือข่ายพลังงานทั่วไทย
๑๔:๓๙ บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024