แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น “ผู้นำตลาดแนวราบ” ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel

ศุกร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๒๐ ๐๘:๔๔
ชี้ กรุงเทพกรีฑา – วัชรพล – รามอินทรา ทำเลศักยภาพ ลุย 4 โครงการบ้านเดี่ยว วางเป้ายอดขายรวมไตรมาส 2 ที่ 8,500 ล้าน คาดแนวราบสดใส กวาดสัดส่วนกว่า 53% จากเป้ารวม
แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น ผู้นำตลาดแนวราบ ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel

แสนสิริรักษาความแข็งแกร่ง อันดับหนึ่งผู้นำตลาด เดินหน้ารุกเป้าหมาย “ผู้นำตลาดแนวราบ” เปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาทเผยแผนแนวราบปี 63 รุกแบรนด์สิริ เพลส – อณาสิริ – สราญสิริ เจาะกลุ่มเรียล ดีมานต์ และคนที่อยากมีบ้านหลังแรก พร้อมรักษาความเป็นผู้นำในแบรนด์ระดับบน อาทิ บุราสิริ และ เศรษฐสิริ เพื่อรับกลุ่ม New Demand จากไลฟ์สไตล์ Social Distancingชี้ กรุงเทพกรีฑา – วัชรพล – รามอินทรา ทำเลศักยภาพ ลุยทัพ 4 โครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพ เศรษฐสิริ กรุงทพกรีฑา 2, เศรษฐสิริ วัชรพล, บุราสิริ วัชรพลและบุราสิริ ปัญญาอินทรา มูลค่ารวม 13,900 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านแห่งวงการอสังหาฯ ไทยบุกต่อไตรมาส 2 ด้วยมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel ตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิดพร้อมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน” ในบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดพร้อมอยู่จากแสนสิริ 62 โครงการทั่วประเทศ เริ่มต้นเพียง 990,000 บาทตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยสูงสุด ในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ คุมเข้มด้วยมาตรการ “Sansiri Care… เพราะเราห่วงใย”ที่พร้อมยกการระดับดูแลเต็มขั้นในทุกสถานการณ์ผนึกความเป็นผู้นำในด้าน Sansiri Service เชื่อมั่นเดินหน้าสู่เป้ายอดขายไตรมาสสอง 8,500 ล้านบาท ได้แน่นอน

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการสร้างยอดขายที่สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก้าวเป็นอันดับ 1 ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรก ด้วยยอดขาย 11,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นยอดจากกลุ่มโครงการแนวราบถึงกว่า 4,800 ล้านบาท หรือ 44% ของยอดขายที่ทำได้ในไตรมาสแรก สะท้อนความสำเร็จจาก การได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” จนส่งผลให้ปิดการขายโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มูลค่าโครงการรวม 10,200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการสราญสิริ ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ โครงการนาราสิริ โทเพียรี่, โครงการนาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1, โครงการนาราสิริ บางนา, โครงการสราญสิริ เกาะแก้วและบุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต เป็นต้น

ล่าสุดในไตรมาส 2 บริษัทได้เดินหน้ารุกสู่เป้าหมายผู้นำตลาดแนวราบตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ด้วยการวางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบในปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท และทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,600 ล้านบาท ทั้งนี้ แสนสิริยังคงยึดมั่นพันธกิจ ในการเป็นผู้นำตลาดแนวราบใน 3 ปี โดยมีกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่ง ได้แก่ การเดินหน้ามุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลาย ทั้งการโฟกัสในตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีดีมานต์ (Mass Market) ด้วยการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ สิริ เพลส อณาสิริ และ สราญสิริ เจาะกลุ่มเรียล ดีมานต์ และคนที่อยากมีบ้านหลังแรก ขณะเดียวกัน บริษัทยังพร้อมรักษาความเป็นผู้นำในแบรนด์ระดับบน อาทิ บุราสิริ และ เศรษฐสิริ เพื่อรับกลุ่ม New Demand จากกลุ่มลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการที่ต้องการมีบ้านใหม่เพื่อแยกครอบครัว หรือต้องการบ้านที่มีพื้นที่กว้างขี้น ซึ่งเป็นผลจากไลฟ์สไตล์ในรูปแบบ Social Distancing นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวบ้านรูปแบบใหม่ รวมทั้งโครงการในแนวคิดใหม่ในปีนี้ เพื่อรองรับดีมานด์และความต้องการที่ตอบโจทย์ insights ของลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับ สถานการณ์ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว

ในปี 2019 ที่ผ่านมามีจำนวนยูนิตเปิดขายในตลาด

21,000 ยูนิต และมีดีมานต์ความต้องการอยู่ที่ 11,800 ยูนิต ซึ่งเห็นได้ว่า Supply มีจำนวนน้อยลง

ขณะที่ดีมานด์ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ Absorption Rate อยู่ที่

56% สูงกว่า 3 ปีก่อนหน้า

สะท้อนให้เห็นว่ายังมีดีมานต์ความต้องการใน โปรดักส์ ที่สามารถตอบโจทย์และตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าต้องการได้ ขณะเดียวกัน ความต้องการบ้านเดี่ยวในระดับราคา ราคา 10-20 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2019 ถึง 7% เมื่อเทียบกับปี 2018 และบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านขายดีที่สุด ดังนั้นในปี 2020 แสนสิริจึงรุกเปิดแบรนด์สิริ เพลส ที่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท รวมทั้งแบรนด์เศรษฐสิริ

บุราสิริ และสราญสิริ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท นอกจากนี้ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อตลาดอสังหาฯ

ยังมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก

1.25% เป็น 1% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เคยมีมา นับเป็นการกระตุ้นการลงทุน

ที่ส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาฯ ทั้งกับ Developer และผู้ซื้อ

เพราะทำให้ Developer เพราะมีต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่ถูกลง

และยังเป็นการลดต้นทุนในการกู้ของผู้ซื้ออสังหา ทำให้มีกำลังในการซื้อมากขึ้น รวมถึงความผันผวนของตลาดหุ้น ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนมองหาการลงทุนในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาว

ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ชี้เป้า ทำเลศักยภาพ “กรุงเทพกรีฑา - รามอินทรา - วัชรพล”

“เราเชื่อมั่นว่า

แบรนด์เศรษฐสิริและบุราสิริ ระดับราคา 8 – 20 ล้านบาท จะเป็นแบรนด์ที่สร้างยอดขายได้ดีในปี 2020 จากการที่กลุ่มลูกค้าระดับบนได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจน้อย

รวมทั้งยังมีทั้ง Real Demand และ New Demand ที่กำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อการอยู่อาศัยเองและขยับขยายครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก

โดยทำเลที่เป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้าระดบบน ได้แก่ โซนกรุงเทพกรีฑา- รามอินทรา-

วัชรพล ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพสำหรับลูกค้าระดับบนซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากการตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ

(CBD) และมีปัจจัยบวกสนับสนุนทั้งในด้านคมนาคมและขนส่งสาธารณะ

ใกล้ทางด่วนเชื่อมต่อการเดินทางทุกเส้นทาง แวดล้อมด้วยสถานศึกษา

โรงพยาบาลและแหล่งไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกวัย ทั้งนี้ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทำเลนี้

ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัย คือ ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโซนรามอินทราและวัชรพลที่ราคาเพิ่มขึ้นจาก 88,000 บาท/ ตร.วา ในปี 2015 เป็น 127,500 บาท/ ตร.วาในปี 2019 หรือเติบโตขึ้นถึง 70% ภายในระยะเวลา 5 ปี ส่วนโซนกรุงเทพกรีฑาก็มีดีมานด์สูงขึ้นต่อเนื่อง

เพราะเป็นทำเลที่ใกล้ CBD ที่สุด

พิสูจน์ได้จากการปิดการขายโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา1 มูลค่าโครงการ

3,600 ล้านบาท ทำให้แสนสิริเชื่อมั่นว่ายังความต้องการอีกมาก

จึงได้เปิดตัวโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา2 ขึ้นเพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ปัจจุบัน อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบางโครงการบ้าง

แต่สำหรับแสนสิริยังมียอดขายและยอดเยี่ยมชมโครงการต่อเนื่อง รวมทั้งทำการขายได้ดี

เห็นได้จากยอดขายที่เกินเป้าหมายในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเราเชื่อว่าในไตรมาส 2

จะมีการตอบรับดีเช่นกัน ด้วยคุณภาพสินค้า ทำเล

และโปรโมชั่นที่พัฒนามาจาก insights ของลูกค้า” นายอาณัติ

กล่าว

สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอบรับดีมานต์ความต้องการในทำเลนี้ ได้แก่ โครงการ “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2” มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่แวดล้อมด้วยระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ได้ง่ายดาย ใกล้กับทางด่วนศรีบูรพาเพียง 2 ก.ม. รถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 เพียง 2.3 ก.ม. และสายสีเหลืองซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 เพียง 4 ก.ม. ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยถนนสายสำคัญต่างๆ เข้าสู่เมือง อาทิ ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนพระรามเก้า – มอเตอร์เวย์, ถนนพัฒนาการ และถนนหัวหมาก ฯลฯ นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยสังคมคุณภาพที่ประกอบไปด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ ซึ่งอยู่ใกล้เพียง 900 ม. โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และการเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ในอนาคต ที่จะมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและผนึกกำลังเพื่อพัฒนาทำเลสู่การเป็นเมืองเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจนส่งผลให้ปิดการขายโครงการในเฟสแรก มูลค่า 570 ล้านบาท และเปิดการขายในเฟสที่ 2 ต่อเนื่อง

โครงการ เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท เพียง 5.5 กิโลเมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) สถานีสายหยุด ที่สามารถวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้ ทั้งสยาม ชิดลม ทองหล่อ โดยไม่ต้องสลับสายรถไฟฟ้า ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 นี้ โครงการตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ที่เชื่อมสู่ถนนพหลโยธิน ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อถนนหลักอีก 2 เส้น คือ ถนนวัชรพลและถนนรามอินทรา ซึ่งมีความคึกคักในการเป็นย่านที่อยู่อาศัยและแหล่งรวมคอมมูนิตี้ต่างๆ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้การเดินทางสะดวกอีกด้วย

โครงการ บุราสิริ วัชรพล มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บนทำเลวัชรพลซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี โดยแสนสิรินับเป็นผู้บุกเบิกพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลนี้ด้วยการเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ วัชรพล” ที่เป็นบ้านเดี่ยวโครงการแรกของแสนสิริ นับเป็นทำเลที่มีการเติบโตมากที่สุดอีกหนึ่งทำเล และมีความคึกคักด้านการแข่งขันสูงจากเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกตอนเหนือ จากความสะดวกในการเดินทาง ที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย นอกจากนี้ โครงการบุราสิริ วัชรพล ยังตั้งอยู่ใกล้กับถนน สุขาภิบาล 5 ที่รายล้อมไปด้วยทางพิเศษ อาทิ ทางด่วนรามอินทรา- อาจณรงค์ และยังอยู่ใกล้เคียงกับวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ที่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ได้ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้ กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) สถานีสายหยุดและสถานีรามอินทรา 31 ที่กำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 นี้

โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลย่านปัญญาอินทรา ซึ่งแสนสิรินับเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่เริ่มต้นพัฒนาโครงการในย่านดังกล่าวจนประสบความสำเร็จ ตั้งแต่โครงการเศรษฐสิริ รามอินทรา, โครงการสราญสิริ รามอินทรา, โครงการฮาบิเทีย ปัญญาอินทรา และโครงการพร้อมพัฒน์ ไพร์ม เป็นต้น เนื่องจากโซนที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวเป็นทำเลที่มีศักยภาพใกล้กับจุดเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลัก ทั้งรามอินทรา , พระราม 9 , วงแหวนตะวันออก , เกษตร-นวมินทร์ ,เสรีไทย, วิภาวดี-รังสิต และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีศูนย์การค้ารายล้อมทั้งแฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัล รามอินทรา, เดอะ พรอเมนาด จากการตอบรับที่ดีจึงส่งผลให้มียอดขายโครงการนี้ไปแล้วถึง 70%

จากความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และความเข้าใจใน Customer Insight บริษัทยังได้เปิดตัวแคมเปญในช่วงไตรมาส 2 “แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน” เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีบ้านง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย สบายใจได้นานตลอดระเวลา 2 ปี และสามารถนำเงินไปใช้จ่ายอื่นได้ เพราะแสนสิริผ่อนให้ ทั้งต้น ทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน ครอบคลุมถึง 62 โครงการพร้อมอยู่ ทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอดีๆ อีกมากมาย อาทิ ฟรีค่าส่วนกลางนานสูงสุด 1 ปีพร้อมรับ Give Voucher สูงสุด 100,000 บาท สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม และฟรีค่าส่วนกลางนาน 2 ปี สำหรับคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จากแสนสิริ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ตั้งแต่ 3 เมษายน จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ยังรวมไปถึงรุกการขายในทุกช่องทางตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิด ด้วยMulti-Channel ซื้อขายครบในทุกช่องทาง และซื้อและเยี่ยมชมโครงการ ง่ายแค่ปลายนิ้ว ได้แก่ ช่องทางที่1 : Sansiri Virtual Sales Gallery เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงบน www.sansiri.com, แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล ช่องทางที่ 2 Line Official Account สนในโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ @Sansiriplc ช่องทางที่ 3 Facebook Sansiri PLC เกาะติดทุกข่าวสารทักผ่าน inbox ได้เลย ช่องทางที่ 4 Visit Site เยี่ยมชมโครงการแบบ private tour ที่ทั้งปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ช่องทางที่ 5 24 Hrs. Online Booking จองคอนโดออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง และช่องทางที่ 6 Call Centre อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร 1685

แสนสิริ ยังได้เตรียมพร้อมรับมือ Covid-19 อยู่เสมอ โดยได้ผนึก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ วางมาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกบ้าน ลูกค้า พนักงานและพันธมิตร ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญ โดยชูแนวทาง “Sansiri Care เพราะเราห่วงใย” เตรียมความพร้อมในการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยกระดับ 3 มาตรการแบบเต็มขั้น ได้แก่ มาตรการการป้องกัน การดูแล และการรับมือ ครอบคลุมทั้งในด้านความสะอาด, การอำนวยความสะดวกและเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมจัดตั้งทีมงานศึกษา และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยทั้งในโครงการและในทุกสำนักงานขาย เพราะความปลอดภัยของลูกบ้าน และลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด

“ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา

และกลยุทธ์ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานต์ รวมถึงการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน”

ทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการหรือ Sansiri Service จากการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย

รวมถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์

24 ชั่วโมง มาตรฐานแสนสิริที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ

แฟมิลี่ ทำให้เชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายในช่วงไตรมาส2 ได้ถึง 8,500

ล้านบาทตามที่วางไว้ โดยแบ่งเป็นยอดขายโครงการแนวราบ 4,500 ล้านบาท และยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท” นายอาณัติ กล่าว

แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น ผู้นำตลาดแนวราบ ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น ผู้นำตลาดแนวราบ ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น ผู้นำตลาดแนวราบ ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4