นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ สายงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาแนวทางและกระบวนการปฏิบัติงานบริการหลังการซื้อขายมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ทัดเทียมกับตลาดหุ้นสากล รองรับการแข่งขันระดับเวทีโลก รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่สมาชิก โดยพัฒนาระบบงานที่เกี่ยวข้องกับงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ 2 ระบบงาน ได้แก่ บริการแจ้งข่าวสิทธิประโยชน์ของบริษัทจดทะเบียน หรือ Corporate Action News ด้วยรูปแบบภาษามาตรฐาน SWIFT Message และระบบงานบริการ Third Party Clearing (TPC)
“การใช้ SWIFT Message เพื่อแจ้งข่าวการจ่ายสิทธิประโยชน์ของบริษัทจดทะเบียนนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นผู้ให้บริการเป็นรายแรกในอาเซียน ซึ่งนับเป็นการก้าวสู่การให้บริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อิงข้อมูลโดยตรงจากบริษัทจดทะเบียน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เจ้าหน้าที่มาจัดทำข้อมูลใหม่ ซึ่งผู้รับข้อมูลดังกล่าวก็สามารถนำข้อมูลเข้าสู่ระบบงานได้โดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Straight Through Processing (STP) ซึ่งเป็นระบบที่เป็นมาตรฐานสากล และในส่วนของบริการ Third Party Clearing นั้น เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องและเพิ่มปริมาณธุรกรรมการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ” นายบดินทร์กล่าว
ระบบแจ้งข่าวสิทธิประโยชน์ของบริษัทจดทะเบียน หรือ Corporate Action News ด้วยรูปแบบภาษามาตรฐาน SWIFT Message ซึ่งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานสากลแพร่หลายในกลุ่มสถาบันการเงินนั้น จะทำให้สมาชิกศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ในกลุ่มคัสโตเดียนแบงค์ ได้รับข่าวเกี่ยวกับการแจ้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากบริษัทจดทะเบียนได้โดยตรง เช่น การจ่ายเงินปันผล การเพิ่มทุน การปิดสมุดทะเบียนเพื่อประชุมผู้ถือหุ้นเป็นต้น ซึ่งจะเป็นการให้บริการข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทันเวลา โดยจะพร้อมให้บริการแก่สมาชิกได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 เป็นต้นไป
ส่วนระบบ Third Party Clearing (TPC) เป็นบริการที่เปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีปัจจุบัน สามารถให้บริการงานชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์แทนบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักหักบัญชีได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีปัจจุบัน และยังทำให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สมาชิกของสำนักหักบัญชีสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ โดยสามารถชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ผ่านสมาชิกแทนการสมัครเป็นสมาชิกเองซึ่งต้องใช้ต้นทุนสูง โดยระยะแรกจะเป็นการให้บริการกับสมาชิกกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกสำนักหักบัญชี ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความเห็นสมาชิกฯ เพิ่มเติมในวันที่ 21 มิถุนายน 2554 นี้
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ และสำนักหักบัญชีฯ เป็นบริษัทในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่ให้บริการหลักด้านการรับฝากหลักทรัพย์ ด้วยระบบไร้ใบหลักทรัพย์ (Scripless) ถอน โอน จำนำ และเพิกถอนจำนำหลักทรัพย์ และด้านการเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ดูแลและรักษาข้อมูลหลักทรัพย์ และจัดทำทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ สำนักหักบัญชีฯ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตราสารหนี้ที่ซื้อขายนอกตลาด (OTC markets) รวมถึงเป็นศูนย์กลางการชำระราคาและวางหลักประกันของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สำหรับรายการซื้อขายที่กิดขึ้นใน บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)
ปัจจุบัน สมาชิกของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ มี 118 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ 37 ราย ธนาคารพาณิชย์ 58 ราย และประเภทอื่นๆ อีก 23 ราย สำหรับสมาชิกของสำนักหักบัญชี ปัจจุบันมี 89 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ 37 ราย ธนาคารพาณิชย์ 46 ราย และประเภทอื่นๆ อีก 6 ราย