นายชาครีย์ บูรณกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แยกก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. มีแนวคิดริเริ่มเพื่อนำพลังงานความเย็นที่ได้จากกระบวนการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้กลายเป็นสถานะก๊าซ และพลังงานความเย็นจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ที่ได้จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติส่วนที่เหลือ จากการนำไปผลิตน้ำแข็งแห้งเพื่อทำฝนเทียมและใช้ในอุตสาหกรรมถนอมอาหาร มาใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด ทั้งนี้ ปตท. โดย โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง จึงร่วมกับ กปร. และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินโครงการวิจัยการปลูกพืชและดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ สตรอเบอรี่ จากพลังงานความเย็นดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดระยองตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา พร้อมพัฒนาโรงเรือนประหยัดพลังงานบนแนวคิดการใช้พลังงานความเย็นน้อยที่สุด ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำที่สุดมาใช้ ซึ่งโครงการดังกล่าวนอกจากจะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกรและผู้สนใจรอบพื้นที่ ให้สามารถปลูกและขยายพันธุ์ไม้เมืองหนาวซึ่งมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดได้เองแล้ว ยังช่วยลดการนำเข้าพืชผักผลไม้จากต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง
นายชาครีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการขยายประโยชน์จากการใช้พลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาติไปสู่พื้นที่ห่างไกล ปตท. ยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการกักเก็บและเคลื่อนย้ายความเย็น เพื่อนำพลังงานความเย็นส่วนเกินจากกระบวนการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้กลายเป็นสถานะก๊าซ ไปจัดเก็บและขนส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งผลิต โดยคาดว่าในปี 2556 ปตท.จะสามารถนำพืชสมุนไพรเมืองหนาวมาปลูกทดลองเพิ่มเติม โดยใช้พลังงานความเย็นจากเทคโนโลยีดังกล่าว
ทั้งนี้ ปตท. ขอเชิญชวนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงานนิทรรศการ “ปตท. ดูแลและแบ่งปัน มหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว” ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2555 ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ สยามกุฎราชกุมารี จ.ระยอง เพื่อสัมผัสกับเทคโนโลยีพลังงานความเย็นที่ทันสมัยและโรงเรือนประหยัดพลังงานต้นแบบ และชมดอกลิลลี่ที่ปลูกขึ้นจากพลังงานความเย็นดังกล่าวภายในห้องเพาะเรือนกระจก พร้อมเก็บเกี่ยวข้อมูลความรู้สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ในการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งโครงการวิจัยพัฒนาพลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาตินี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ ปตท. ในการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดยใช้ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน