แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล แสดงศักยภาพการเติบโตในเอเชีย ด้วยจำนวนโรงแรมที่เพิ่มขึ้น 186 แห่ง รวมทั้งโรงแรมระดับหรูแห่งใหม่อีก 6 แห่งในเดือนตุลาคม

พุธ ๑๖ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๕๒
ผู้นำด้านห้องพักระดับโลกพร้อมเปิดโรงแรมเพิ่มภายใต้แบรนด์ ‘ริทซ์ คาร์ลตัน’ 3 แห่ง และ‘เจดับบลิว แมริออท’ 3 แห่ง ตามแผนจึงทำให้มีจำนวนโรงแรมรวม 330 แห่งในอีกสามปีข้างหน้า

ในขณะที่แมริออท อินเตอร์แนชั่นแนล อิงค์ (NYSE: MAR) ยังคงช่วยให้ผู้คนได้ “เห็นโลกกว้าง” อย่างต่อเนื่อง วันนี้บริษัทได้ประกาศว่าจะมีการเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 6 แห่งในเอเชียภายในเดือนนี้ ได้แก่ แบรนด์ริทซ์ คาร์ลตัน และ เจดับบลิว แมริออท บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องรวดเร็วด้วยการเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน ที่เฉิงตู เทียนจิน และ บังกาลอร์ ในเดือนตุลาคม ในขณะที่แบรนด์ เจดับบลิว แมริออท ก็ได้เปิดโรงแรมในฮานอย บังกาลอร์ และเดลลี

ด้วยจำนวนโรงแรม 186 แห่งในแผนที่ได้มีการเซ็นสัญญาแล้ว และอีกกว่า 135 แห่งในจำนวนนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงสามปีข้างหน้า แมริออทตั้งเป้าจะมีโรงแรมในเอเชียเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในปี พ.ศ. 2559 โดยจะมีโรงแรมรวมทั้งสิ้น 330 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพัก 96,000 ห้องใน 16 ประเทศ ดังนั้นในช่วงเวลานี้คาดว่าจะเปิดโรงแรมในทวีปเอเชียได้เฉลี่ย 1 แห่งในทุกๆ 8 วัน

มร. อาร์เน ซอเรนซัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า“นี่เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีของแมริออท ในโอกาสที่เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านการพัฒนาโรงแรมในท้องถิ่น ในการมีส่วนช่วยในการเติบโตของเอเชียในอนาคต การขยายกิจการอย่างรวดเร็วของเราในภูมิภาคนี้ สะท้อนให้เห็นความนิยมในแบรนด์ของเราในเอเชีย ทั้งในกลุ่มเจ้าของโรงแรมและลูกค้า และด้วยการเปิดโรงแรมเกือบทุกสัปดาห์ในทวีปนี้ เราจะมีความพร้อมในการต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีโรงแรมมากกว่า 330 แห่งพร้อมเปิดให้สำรองห้องพักในช่วงสามถึงสี่ปีข้างหน้าแสดงให้เห็นถึงปรากฎการณ์ของความสำเร็จ ที่ทั้งแมริออทและเจ้าของโรงแรมต่างๆ ได้รับร่วมกัน และเราจะได้เปิดโรงแรมที่เป็นสัญญลักษณ์ 6 แห่ง จาก 2 แบรนด์หรูระดับเวิลด์คลาส ของเราในเดือนนี้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก”

แมริออทได้บริหารเครือแบรนด์ระดับเวิลด์คลาสจำนวน 8 แบรนด์ในเอเชีย ได้แก่ 'บุลการี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท' 'ริทซ์ คาร์ลตัน' 'เจดับบลิว แมริออท' 'เรเนซองส์' 'ออโตกราฟ คอลเลคชั่น' 'แมริออท โฮเต็ลส์' 'คอร์ทยาร์ด' และ 'แมริออท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์' และมองเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างมากในทุกๆ แบรนด์ที่มีเป้าหมายภาคส่วนตลาดที่ต่างกัน สำหรับแบรนด์แมริออท โฮเต็ลส์ ซึ่งเป็นแบรนด์หลัก ทางบริษัทคาดว่าจะเปิดโรงแรมเกือบ 50 แห่งในภูมิภาคระหว่างช่วงสองสามปีข้างหน้า

บริษัทยังมีแผนสำหรับแบรนด์อื่นๆ ที่จะเปิดตัวเพิ่มเติมในเอเชีย ด้วยการเปิดตัวแบรนด์แฟร์ฟิลด์ โดย แมริออท ในประเทศอินเดียเมื่อเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเปิดตัวแบรนด์เอดิชั่น ในกรุงเทพมหานครในปีพ.ศ. 2559 แฟร์ฟิลด์เป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ครั้งสำคัญของบริษัทในประเทศอินเดีย โดยมีการเซ็นสัญญาโรงแรม 12 แห่งในอินเดีย และมีโรงแรมเพิ่มเติมที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในประเทศอินโดนีเซียและเนปาล

“ในขณะที่เราจะมีความยินดีว่าเราได้มีโรงแรมที่เปิดทำการและโรงแรมที่เซ็นสัญญาแล้วถึง 330 แห่งในเอเชีย เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเติบโตต่อไปในภูมิภาคนี้" มร. ไซม่อน คูเปอร์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเซีย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

“เราเล็งเห็นการพัฒนาในประเทศต่างๆ ที่ปัจจุบันเราได้ดำเนินการแล้วในเอเชีย รวมถึงการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เรายังคงรุกเข้าไปในตลาดใหม่ๆ ในเอเชีย โดยเมื่อเร็วๆ นี้เราได้เซ็นสัญญาโรงแรมในเนปาล ศรีลังกา และบังกลาเทศ ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเราในภูมิภาค โดยมีโรงแรมที่เปิดทำการแล้ว 64 แห่ง และมีสัญญาที่เซ็นแล้วสำหรับโรงแรมอื่นๆ อีก 89 แห่ง ซึ่งจะทำให้เรามีโรงแรมกว่า 150 แห่งในประเทศจีนในช่วงอย่างน้อยสามปีข้างหน้า ผลที่ตามมาคือ เราคาดว่าจะขยายการกระจายธุรกิจจาก 16 เมืองใน12 จังหวัด เขตเทศบาลและเขตการปกครองพิเศษไปเป็นมากกว่า 50 เมืองใน 26 จังหวัด เขตเทศบาล เขตปกครองตนเอง และเขตการปกครองพิเศษภายในปีพ.ศ. 2559”

เพื่อให้บรรลุถึงการเติบโตนี้ แมริออทคาดว่าจะมีการเพิ่มพนักงานที่มีการศึกษาและได้รับการฝึกอบรมมารองรับ มากกว่า 41,000 คนในเอเชีย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวของแรงงานปัจจุบันในภูมิภาคมากกว่า 80,000 คนระหว่างปีนี้ถึงปีพ.ศ. 2560 ซึ่งกว่าครึ่งของจำนวนนี้ เป็นพนักงานในประเทศจีน เพื่อเป็นการสนับสนุนความต้องการในตัวพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ลงทุนในโปรแกรมที่สนับสนุนการศึกษาของเยาวชน ผ่านการสนับสนุนเงินจำนวน 40.5 ล้านหยวน (6.5 ล้านดอลลาร์) ของ Marriott Institute of Hospitality ในมณฑลอานฮุยและมูลนิธิแมริออทสำหรับเยาวชนของประเทศจีนผ่านโครงการริเริ่มการศึกษาด้าน อุตสาหกรรมต้อนรับของแมริออทประเทศจีน (Marriott China Hospitality Education Initiative หรือ CHEI) แมริออทยังดำเนินการโปรแกรมด้านการศึกษาในประเทศอื่นๆ ของเอเซีย เช่น องค์กร Mahindra Pride School ในประเทศอินเดีย ซึ่งมอบการฝึกอบรมแบบทดลองทำงานจริงภายในโรงแรมในประเทศให้แก่เด็กๆ จากชุมชนผู้ด้อยโอกาส

แมริออทมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ว่าจ้างที่เป็นตัวเลือกในประเทศต่างๆ ที่บริษัทดำเนินกิจการโรงแรมอยู่ ในเกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศจีนได้รับรางวัล Best Employer แห่งปีพ.ศ. 2556 โดย Aon Hewitt ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้ง ?'Best of the Best’ ในฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย สถาบัน CRF ได้รับรองให้แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นหนึ่งในบรรดานายจ้างชั้นนำในประเทศจีนในช่วงสองปีที่ผ่านมา และ Great Place to Work ได้จัดให้แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานที่สุด 10 แห่งในอินเดีย ล่าสุดบริษัทได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุดที่นักศึกษามหาวิทยาลัย มองว่าเป็นสถานที่ทำงานในอุดมคติสำหรับการสำรวจของนักศึกษามหาวิทยาลัย Universum ฮ่องกง

แมริออทเป็นผู้สนับสนุนที่ดีในการลดกรอบในการเดินทาง ผ่านการเป็นสมาชิกสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) และสมาชิกสภาการบิน การเดินทางและการท่องเที่ยว ของการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก โดยมุ่งเน้นเรื่องแบบจำลองใหม่ๆ ของการเดินทางเป็นหลัก เช่น วีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ และการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เพื่อให้การเดินทางง่ายขึ้น บริษัทยังฝึกอบรมพนักงานและทีมงานนอกประเทศจีนเพื่อต้อนรับและดูแลนักเดินทางชาวจีนอีกด้วย

มร. ไซม่อน คูเปอร์ ได้เข้าร่วมการลงนามประกาศเจตนารมย์เกี่ยวกับสมาร์ท วีซ่า ณ การประชุมเวิลด์อีโคโนมิคฟอรัมครั้งที่ 22 ว่าด้วยภูมิภาคเอเซียตะวันออกในประเทศพม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย และเลขานุการการท่องเที่ยวแห่งประเทศฟิลิปปินส์ และได้แสดงเจตนารมย์ที่จะร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ในการช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคสำหรับการเริ่มบังคับใช้ระบบนี้ วัตถุประสงค์ของการลงนามบันทึกข้อตกลงในการร่วมมือในครั้งนี้คือการกำจัดเส้นกั้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวในการเดินทางภายในภูมิภาคนี้

“เรามองว่านี่คือยุคทองของการท่องเที่ยวรอบโลก” มร. ซอเรนซัน กล่าว “และโรงแรมในเครือแมริออทของเราจะพร้อมต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน ระหว่างนี้เราได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับแขกทุกท่านและพนักงานทุกคนเช่นกัน โดยการสร้างอาชีพให้แก่พนักงานในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ทั่วทวีปเอเชีย ในขณะที่มอบประสบการณ์การเดินทางอันล้ำค่าให้แก่แขกในแบรนด์โรงแรมที่กำลังเติบโตขึ้นของเราในภูมิภาคนี้ และมอบการลงทุนที่ดีให้กับเจ้าของโรงแรมของเรา"

หมายเหตุ: ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงข้อความเกี่ยวกับจำนวน ตำแหน่งที่ตั้ง และวันที่เปิดตัวโรงแรมใหม่ อัตราการเติบโตของจำนวนแรงงานในระดับภูมิภาคที่คาดการณ์ และข้อความที่คล้ายคลึงกันซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอนาคต และการคาดการณ์ที่มิใช่ข้อเท็จจริง ทางประวัติศาสตร์ เราขอเตือนว่าข้อความเหล่านี้ไม่ใช่การรับประกันผลการปฏิบัติการ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยและความไม่แน่นอนต่างๆ ซึ่งรวมถึงความเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ และอุปทานของจำนวนห้องพัก สภาพการแข่งขันของอุตสากรรมการบริการ ความสัมพันธ์กับลูกค้า และเจ้าของโรงแรม ความเพียงพอของเงินลงทุนเพื่อบริหารงานโรงแรม และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังที่ระบุไว้ในรายงานประจำไตรมาสล่าสุดของบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ในแบบฟอร์ม 10-Q ซึ่งสามารถทำให้มีผลที่ต่างไปอย่างมากจากสิ่งที่กล่าวและแฝงไว้ในข้อความนี้ ข้อความเหล่านี้ประกาศ ณ วันที่ออกข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บริษัทไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงข้อมูลที่มีลักษณะคาดการณ์ดังกล่าว ที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือในประกาศอื่นใดที่ระบุในที่นี้

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NYSE: MAR) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมชั้นนำของโลก บริหารกิจการมากกว่า 3,800 แห่ง ใน 72 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเบเธสดา มลรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานผลประกอบการประจำปี 2554 บริษัทฯ ทำรายได้เป็นจำนวนเงินมากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลดำเนินงาน และบริหารจัดการโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ทั้งหมด 18 แบรนด์ ได้แก่ 'แมริออท โฮเต็ลส์' 'ริทซ์ คาร์ลตัน' 'เจดับบลิว แมริออท' 'บุลการี' 'เอดิชั่น' 'เรเนซองส์' 'เกย์ลอร์ด โฮเต็ล' 'ออโตกราฟ คอลเลคชั่น' 'เอซี โฮเต็ลส์ โดย แมริออท' 'คอร์ทยาร์ด' 'แฟร์ฟิลด์ อินน์ แอนด์ สวีท' 'สปริงฮิลล์ สวีท' 'เรซิเดนซ์ อินน์' 'ทาวน์เพลส สวีท' 'แมริออท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์' 'แมริออท วาเคชั่น คลับ' 'แกรนด์ เรสซิเดนท์ โดย แมริออท' และ' ริทซ์ คาร์ลตัน เดสทิเนชั่น คลับ' ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานประมาณ 325,000 คน ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดและในการดำเนินธุรกิจยอดเยี่ยมซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานค่านิยมหลัก 5 ประการ คือ 1.) ทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ 2.) มุ่งสู่ความเป็นเลิศ 3.) ยอมรับการเปลี่ยนแปลง 4.) ดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม และ 5.) รักษ์โลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ www.marriott.com และค้นหาข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.marriottnewscenter.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4