นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เป็นหนึ่งในสามแหล่งเรียนรู้ของ อพวช. ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ให้บริการผู้เข้าชมได้มาเรียนรู้ความหลากหลายทางธรรมชาติของพืชและสัตว์รวมถึงเป็นศูนย์วิจัย ศูนย์ข้อมูลอ้างอิงวัสดุตัวอย่างทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ตลอดจนจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา
อพวช. โดย พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ได้ร่วมมือกับ องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธี ลงนามความร่วมมือ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี พลังงาน และ สิ่งแวดล้อม แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันใช้ทรัพยากรตามภารกิจหลักของทั้งสองหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่ผ่านมา อพวช. ได้รับการอนุเคราะห์ซากสัตว์จากองค์การสวนสัตว์ เพื่อนำมาทำ สัตว์สตั๊ฟฟ์ ด้วยเทคนิคสมัยใหม่อย่าง Taxidermy เพื่อมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการ และเมื่อ อพวช. มีการจัดอบรมเรื่องการสตั๊ฟฟ์ ทางองค์การสวนสัตว์เองก็ให้ความสนใจส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเรียนรู้ จากความร่วมมือที่ผ่านมา เราหวังว่าในอนาคตทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันทำงานในหลาย ๆ ด้าน เพื่อบริการความรู้ให้กับประชาชนต่อไป
ทางด้าน นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์ มีภารกิจหลักในงานด้านการอนุรักษ์และวิจัย และยังให้ความสำคัญในด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่องซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอนุกรมวิธาน (Taxonomy) และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ องค์การสวนสัตว์ ยินดีสนับสนุนซากสัตว์ ให้กับ อพวช. เพื่อนำไปสตัฟฟ์ด้วยเทคนิคสมัยใหม่ สำหรับใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการ การจัดแสดงกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการนำทรัพยากรสัตว์ป่าไปใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืนต่อไป
ปัจจุบัน องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีสวนสัตว์ในสังกัด 7 แห่ง ประกอบด้วย สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์ขอนแก่น และ สวนสัตว์อุบลราชธานี และอีกหนึ่ง โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์