จับตาวาระ กทค. ครั้งที่ 12/2560 : บจ. ไทม์ ดอทคอม อินเตอร์เนชั่นแนล ขอควบรวมกิจการกับ บมจ. ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น

พุธ ๐๓ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๒๖
ในการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 12/2560 วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2560 มีวาระที่น่าสนใจคือการพิจารณาเรื่อง บจ. ไทม์ ดอทคอม อินเตอร์เนชั่นแนล ขออนุญาตควบรวมกิจการด้วยวิธีการเข้าซื้อหุ้น (Acquisition) ของ บมจ. ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น โดยภายหลังควบรวมกิจการจะส่งผลให้บริษัทไทม์ฯ กลายเป็นผู้ถือหุ้นของผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2 ราย คือ บจ. เคิร์ซ และบริษัทซิมโฟนี่ฯ ซึ่งบริษัทเคิร์ซฯ เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารแบบเชื่อมต่อจุดต่อจุด บริการด้านเครือข่ายให้กับลูกค้าองค์กรธุรกิจในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสงและบริการโครงข่ายส่วนตัวเสมือนจริงที่ใช้ Internet Protocol (IP VPN) ขณะที่บริษัทซิมโฟนี่ฯ ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงภายในประเทศ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 2 ประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเอง และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 เพื่อให้บริการวงจรเช่าระหว่างประเทศส่วนบุคคล (IPLC) และวงจรเช่าระหว่างประเทศส่วนบุคคลแบบเสมือน (IP-VPN) นอกจากนี้ ยังเป็นผู้รับใบอนุญาตเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศและบริการชุมสายอินเทอร์เน็ตแบบที่สองที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองด้วย

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของ บจ. ดีลอยท์ คอนซัลติ้ง ที่ปรึกษาอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงาน กสทช. ระบุว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวเป็นการควบรวมทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน กล่าวคือ แบบแนวตั้ง บริษัทซิมโฟนี่ฯ เป็นธุรกิจต้นน้ำ ส่วนบริษัทเคิร์ซฯ เป็นธุรกิจปลายน้ำ จึงอาจเป็นไปได้ว่าบริษัทเคิร์ซฯ สามารถควบคุมต้นทุนในการให้บริการถูกกว่าผู้ให้บริการที่ไม่มีการควบรวม เช่น จ่ายค่าเช่าใช้โครงข่ายในราคาที่ถูกกว่าผู้ให้บริการรายเล็กรายอื่น เป็นต้น ส่วนแบบแนวนอน ทั้งสองบริษัทเป็นผู้ให้บริการค้าปลีกอินเทอร์เน็ตประจำที่ แต่ทั้งหมดนี้เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งตลาดทั้งของบริษัทเคิร์ซฯ และบริษัทซิมโฟนี่ฯ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก จึงส่งผลต่อค่าดัชนีการกระจุกตัวของตลาด (HHI) หลังควบรวมกิจการไม่มากนัก และไม่สามารถกีดกันการเข้าสู่ตลาดของผู้ให้บริการรายใหม่ หรือขัดขวางการแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทไทม์ฯ (ในฐานะผู้มีอำนาจควบคุมบริษัทเคิร์ซฯ) และบริษัทซิมโฟนี่ฯ จะเป็นการควบรวมระหว่างผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ซึ่งอาจส่งผลต่อการแข่งขันของตลาดที่เกี่ยวข้องไม่มากนัก แต่ข้อวิเคราะห์ของ บจ. ดีลอยท์ คอนซัลติ้ง ที่สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอให้ กทค. พิจารณาดูจะยังขาดความชัดเจนและคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงในบางประเด็น เช่น ไม่มีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมายว่าบริษัทไทม์ฯ มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการควบรวมและการถือหุ้นไขว้ในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 หรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการถือหุ้นไขว้ระหว่างผู้รับใบอนุญาต หรือผู้รับใบอนุญาตรายอื่นที่อยู่ในตลาดที่เกี่ยวข้อง หรือในส่วนของการวิเคราะห์ตลาดค้าส่งบริการ บทวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่าบริษัทเคิร์ซฯ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการขายส่งบริการ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วบริษัทเคิร์ซฯ เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ที่ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตในตลาดขายส่งบริการด้วย ในประเด็นนี้ที่ปรึกษาอิสระก็ไม่ได้วิเคราะห์และนำเสนอ กทค. เพื่อประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีข้อน่าสังเกตด้วยว่าในการวิเคราะห์สถานการณ์ (Scenario Analysis) การกระจุกตัวของตลาดขายปลีกบริการอินเทอร์เน็ตประจำที่นั้น ทั้งบริษัทเคิร์ซฯ และบริษัทซิมโฟนี่ฯ เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เน้นให้บริการแก่องค์กรธุรกิจเป็นหลัก ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการประเภทครัวเรือน ดังนั้น การควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการเฉพาะกลุ่มองค์กรธุรกิจเป็นหลัก ในการวิเคราะห์ จึงควรต้องพิจารณาส่วนแบ่งตลาดและดัชนี HHI เฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการแก่องค์กรธุรกิจด้วย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการควบรวมกิจการจะไม่ส่งผลกระทบต่อการกระจุกตัวของตลาดดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากวาระที่น่าสนใจเรื่องการขอควบรวมกิจการระหว่างบริษัทไทม์ฯ และบริษัทซิมโฟนี่ฯ แล้ว ยังมีวาระอื่นๆ ที่สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา เช่น การคิดดอกเบี้ยผิดนัดกรณี บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ค้างชำระค่าปรับทางปกครอง การแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาการขายส่งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม กับ บจ. เดอะไวท์สเปซ รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกิจการโทรคมนาคมประจำเดือนมีนาคม 2560 โดยพบว่าไม่มีเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเลย ขณะที่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ มีเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเพียงเรื่องเดียว แน่นอนว่าหลักฐานทางสถิติที่ปรากฏสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการดังกล่าวแทบไม่มีประโยชน์ อีกทั้งยังต้องสิ้นเปลืองงบประมาณและบุคคลากรในการดำเนินงาน จึงเกิดคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ กทค. ต้องพิจารณาทบทวนเรื่องนี้ให้เด็ดขาดเสียที

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?