อมารี นิเซโกะ มีกำหนดเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2567 ตั้งอยู่ในโครงการอสังริมทรัพย์แบบผสมผสาน (mixed-use development) บนถนนอารุกุ-ซากะ ที่ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากันกับคุณลักษณะและที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของบริเวณพื้นที่ฮิราฟุ โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้จะประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารชั้นเตี้ย ตั้งอยู่ล้อมรอจตุรัสและทางเดินเท้าอันสดใสและมีชีวิตชีวา พร้อมต้อนรับผู้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวจากต่างเมือง ถนนอารุกุ-ซากะจะกลายเป็นศูนย์รวมตัวเลือกด้านไลฟ์สไตล์ ร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่พักอาศัยและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อมารีโฉมใหม่
ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางบริเวณพื้นที่ฮิราฟุ อำเภออะบุตะ เมืองคุตชาน ไม่ไกลจากทางหลวงหมายเลข 343 ทำให้อมารี นิเซโกะและถนนอารุกุ-ซากะนับเป็นจุดหมายปลางทางที่เข้าถึงได้โดยสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง หรือการเดินทางโดยรถไฟจากสนามบินนิวชิโตเสะในซัปโปโร นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางมายังสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามตลอดสองข้างทาง
อมารี นิเซโกะ จะประกอบไปด้วยห้องพักจำนวน 126 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักแบบสตูดิโอ ห้องพักแบบสวีทหนึ่งห้องนอนและห้องพักแบบสวีทสองห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบครัน เหมาะสำหรับการเดินทางมาเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว หรือการปีนเขาและปั่นจักรยานท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีในช่วงฤดูร้อน ออกแบบในสไตล์ไทยร่วมสมัย ผสมผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว พร้อมตัวเลือกด้านร้านอาหารและบาร์ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า "อมารีเป็นแบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมาโดยตลอด ที่ผ่านมา อมารีทำหน้าที่เผยแพร่ประสบการณ์การพักผ่อนสไตล์ไทยร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ อาทิ มัลดีฟส์ มาเลเซีย จีน และศรีลังกา โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้ขยายขอบเขตกว้างขึ้นไปอีก เราจึงตัดสินใจลงนามร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท เมโทรโพลี โฮลดิงส์ จำกัด เพื่อเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์อมารีเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลางทางที่เราไม่เคยไปมาก่อน โดยเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ทำงานร่วมกันกับบริษัท เมโทรโพลี โฮลดิงส์ จำกัด ซึ่งออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เป็นบริษัทเพียงหนึ่งเดียวที่รับหน้าที่บริหารจัดการโรงแรมในโครงการอสังริมทรัพย์แบบผสมผสานบนถนนอารุกุ-ซากะ หนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับการเล่นสกีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก"
นายอัง เรนยิ หุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท เมโทรโพลี โฮลดิงส์ จำกัด กล่าวว่า "โครงการอสังริมทรัพย์แบบผสมผสานบนถนนอารุกุ-ซากะ ถือเป็นโครงการอสังริมทรัพย์แบบผสมผสานโครงการแรกของนิเซโกะ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบพื้นที่สาธารณะอันกว้างขวางและกิจกรรมสันทนาการต่างๆให้แก่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยว โครงการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ และความตั้งใจที่จะสร้างจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาใช้บริการได้ตลอดทั้งปี มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายและความมีชีวิตชีวา พร้อมนำเสนอตัวเลือกด้านร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่สาธารณะหลากหลายรูปแบบ เรามั่นใจว่า อมารี นิเซโกะ จะได้ประโยชน์จากความรู้ ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป รวมทั้งประสบการณ์และความสำเร็จของออนิกซ์ฯ ในฐานะบริษัทผู้นำด้านบริหารจัดการโรงแรมที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชีย ที่จะทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานบนถนนอารุกุ-ซากะกลายเป็นโครงการอสังริมทรัพย์ที่น่าจับตามอง พร้อมส่งเสริมตำแหน่งของนิเซโกะในฐานะจุดหมายปลายทางเพื่อการท่องเที่ยวระดับโลกให้ดียิ่งขึ้นไปอีก"
โรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อมารี โดยออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันเป็นผลมาจากการผสมผสานรากเหง้าของวัฒนธรรมไทยอันยาวนาน งดงามเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นในจุดหมายปลายทางต่างๆอย่างลงตัว โรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อมารีแต่ละแห่งนำเสนอประสบการณ์และรสชาติของวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่ง ศิลปะ อาหารและการบริการ โดยยังคงมนต์เสน่ห์ความเป็นไทยสไตล์ร่วมสมัยไว้อย่างชัดเจน
ช่วงสามปีทีผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียของแบรนด์อมารี โดยมีการเปิดตัวในหลายประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา มาเลเซีย จีน และลาว
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันบริหารจัดการโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ภายใต้แบรนด์อมารี โอโซ่ และชามา ทั้งหมด 50 แห่งในเจ็ดประเทศ และมีแผนรุกขยายเครือข่ายใหม่อีกกว่า 20 แห่งในตลาดต่าง ๆ อาทิ ประเทศจีน มาเลเซีย และลาว โดยมีเป้าหมายจะเปิดให้บริการโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ในเครือข่ายทั้งหมด 99 แห่งภายในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเป็นบริษัทขนาดกลางด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ทและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก