บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เผยความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ของ FTREIT ครั้งที่ 1/2563 จำนวน 2 ชุด อายุ 7 ปี และ 10 ปี รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.165 ต่อปี โดยเปิดให้จองซื้อเมื่อวันที่ 1 - 2 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมั่นใจในสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ FTREIT โดยมียอดจองซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ครบตามจำนวนวงเงินที่ออกและเสนอขายอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการออกหุ้นกู้นี้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกู้ของ FTREIT ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 จำนวน 450 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 และชุดที่ 2 จำนวน 550 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.30 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2573 ทั้งนี้ FTREIT ได้นำเงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนเมษายน 2563 และเงินกู้ยืมระยะสั้นแล้ว
นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของ FTREIT เปิดเผยว่า "ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้นกู้ โดยจะเลือกหุ้นกู้ของผู้ออกที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป รวมถึงเข้าลงทุนในบริษัท หรือ กองทรัสต์ที่มีฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานที่มีความมั่นคง ซึ่งกองทรัสต์ FTREIT ยังคงมีฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานที่ดี รวมถึงมีแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ชัดเจน ผลตอบรับที่เกินความคาดหมายในครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตของ FTREIT กองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ดังกล่าวโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับ A แนวโน้มคงที่ ที่นับว่าเป็นอันดับความน่าเชื่อถืออันดับสูงสุดสำหรับกองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมในประเทศ”