การรักษาโรคที่มากับน้ำที่เท้า ต้องล้างเท้าทันที ที่กลับมาถึงบ้าน เช็ดให้สะอาด ทาโลชั่นให้ความชุ่มชื้น หรือถ้าเริ่มมีการอักเสบ ให้ทายาสเตียรอยด์อ่อน ๆ 2-3 วัน ถ้ามีเชื้อราแทรกซ้อน ต้องทายารักษาเชื้อราร่วมด้วย หรือถ้าเป็นมากให้ใช้ยารับประทานเชื้อรา ถ้าเท้าแฉะเป็นหนอง ให้รับประทานยาปฏิชีวนะ
โรคเท้าเป็นรู Pitted keratolysis หรือโรคเท้าเหม็น เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อาจมองข้ามไป เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ชอบความอับชื้น ลักษณะโรคจะเห็นฝ่าเท้ามีรูพรุนๆ เป็นวงๆ มีกลิ่นอับ มักพบในคนที่มีเหงื่อออกที่เท้าเยอะ การรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะทาหรือรับประทาน
โรคที่ความชื้น เป็นสาเหตุกระตุ้น เช่น ผดผื่น สิว หรือขุยบริเวณหน้า ตั้งแต่ผดเล็ก ๆ อันเนื่องมาจากเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้มีเหงื่อหรือสารคัดหลั่งจากต่อมไขมันคั่งค้างในรูขุมขนได้ บางคนเรียกว่า ผดเหงื่อ หรือบางรายสิวขึ้นมากกว่าปกติ อันเนื่องจากผิวมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ และทำให้เชื้อสิวเจริญเติบโตมากกว่าปกติ ยิ่งช่วงนี้ที่ต้องใส่มาสค์ ตลอดโอกาสที่เกิดสิวจะง่ายกว่าปกติ
โรคที่ระบาดในช่วงฤดูนี้ โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสมักมากับฝน เช่น ไข้ออกผื่น โรคหัดดอกกุหลาบ (Pityriasis Rosea) ก็สามารถพบได้มากขึ้นในหน้าฝน ลักษณะของโรคนี้จะมีผื่นนำเป็นวงมักพบที่ลำตัวก่อนและลามมาทั่วตัว ตามตำแหน่งเหมือนคนใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้น สาเหตุที่แท้จริงไม่แน่ชัด สันนิษฐานว่าเป็นไวรัส ทำให้พบได้ในช่วงฤดูฝน โรคนี้สามารถหายเองได้
ด้วงก้นกระดก พบได้บ่อยในช่วงฝนต่อหนาว ในบริเวณหนองน้ำ ลักษณะโรคจะเป็นตามรอยที่สัมผัสกับด้วงก้นกระดก เกิดจากสารเคมีในตัวมาสัมผัสผิวหนัง ด้วงไม่ได้กัด แต่เกิดจากเราไปบี้เอาสารในตัว ลักษณะบางครั้งจะเป็นเส้น ตามรอยที่เราปัด ทำให้บางครั้งคิดว่าเป็นโรคงูสวัด
โรคงูสวัด เป็นเชื้อไวรัส Herpes Virus เป็นเชื้อเดียวกับอีสุกอีใส เมื่อเป็นอีสุกอีใสหายแล้วเชื้อจะอยู่ในปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อจึงออกมาลักษณะเป็นกลุ่มของตุ่มน้ำ เรียงตัวเป็นเส้นตามเส้นประสาท มีอาการปวดแสบปวดร้อน ความรุนแรงขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย บางคนเมื่อหายแล้วจะมีอาการเส้นประสาทอักเสบได้อีกนาน ปัจจุบันแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ไว้ก่อนจะดีกว่า
ดังนั้นในฤดูฝนนี้ ต้องรักษาสุขภาพกาย สุขภาพใจ ให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ แล้วคุณก็จะมีสุขภาพผิวที่ดี