ทั้งนี้ ประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ ได้เริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2541 ในครั้งนั้นมีเพียงแพรูปจำลองเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เพียงแพเดียว ต่อมาในปี 2542 เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา จึงได้กำหนดให้ประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ จัดเป็นประจำทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี และเป็นงานประเพณีสำคัญตลอดมา จากนั้นได้มีขบวนเรือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตลอดฝั่งมีประชาชนเข้าร่วมชมความสวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการเพิ่มขึ้นทุกปี สร้างความสุข ความภาคภูมิใจ สร้างรายได้ให้กับประชาชนและชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ 7 หลัง ได้แก่ แพหลังที่ 1 เอกองค์อมรินทร์ แพหลังที่ 2 นวมินทร์มหาราช แพหลังที่ 3 ปราชญ์แห่งแผ่นดิน แพหลังที่ 4 อัครศิลปิน แพหลังที่ 5 ภูมินทร์ภัทรราชัน แพหลังที่ 6 คุ้มเกล้าประชาสุขสันต์ แพหลังที่ 7 ราชันแห่งราชา โดยปีนี้ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ขอความร่วมมือผู้ชมงานด้วยวิถีใหม่ (New Normal) สามหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และเว้นระยะทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19
- ๒๐ เม.ย. วัดไชยฯ ต้อนรับประชาชนนับหมื่นพร้อมใจเข้าชมการแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด "สัจจะพาลี" สืบสานวัฒนธรรมไทย จารึกในประวัติศาสตร์
- ๒๐ เม.ย. ข่าวดี!! ขาช็อปต้องไม่พลาด "CPOT @SHOP IN SHOP"
- ๒๑ เม.ย. แคนนอน เชิญชวนคนรุ่นใหม่ สืบสานศิลปวัฒนธรรมโขน ในงาน Miscellany of Khon (เกร็ดโขน) ณ สโลว์คอมโบ กรุงเทพฯ 29 ก.พ. - 1 มี.ค 67 นี้